การบินไทย (THAI) อาการโคม่า! ฝ่ายบริหารยอมรับมีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงานได้แค่สิ้นเมษายนนี้ วอนรัฐเร่งอนุมัติแผนกู้เงินก่อนขาดสภาพคล่อง ด้าน สมคิด ตั้งทีมกู้วิกฤต วางแนวทางฟื้นฟูเร่งด่วนใน 3-6 เดือน พร้อมแผนแข่งขันในระยะยาว ด้าน ศักดิ์สยาม คาดสรุปแผนฟื้นฟูได้สัปดาห์หน้า หากเดินได้ตามแผน มั่นใจการบินไทยจะกลับมาแข็งแรง
THAI วิกฤตหนัก จ่ายเงินเดือนได้แค่สิ้นเมษายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ในที่ประชุมเพื่อหาแนวทางฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ที่มี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย และผู้บริหารการบินไทย ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และตัวแทนพนักงานในส่วนงานต่างๆ ของการบิน
ทั้งนี้ฝ่ายบริหารการบินไทยได้มีการแจ้งในที่ประชุมว่า ในส่วนสถานะการเงินของการบินไทย ขณะนี้มีเงินสดที่สามารถหมุนเวียนบริหารจัดการตลอดปี 2563 มีอยู่ 10,000-12,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินส่วนหนึ่งที่จะสามารถนำมาจ่ายเงินเดือนพนักงานได้แค่ภายในสิ้นเดือนเมษายน 2563 เท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเป็นการจ่ายให้กับเจ้าหนี้ที่การบินไทยมีอยู่ ดังนั้นการบินไทยจึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ อนุมัติแผนการกู้เงินเพื่อมาบริหารจัดการในการบินไทยโดยเร็ว
ทางฝ่ายบริหารการบินไทยได้มีการเสนอแนวทางรอดของการบินไทย โดยเสนอให้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมอนุมัติให้การบินไทยกู้เงิน 70,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อนำมาบริหารจัดการและฟื้นฟูการบินไทย แต่บนพื้นฐานที่ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องจบลงภายในเดือนตุลาคม 2563 และการบินไทยสามารถมาทำการบินใหม่ รวมถึงมีการปรับองค์กรใหม่ แต่หากสถานการณ์ล่วงไปกว่านั้น จำนวนเงินที่ต้องใช้ก็จะมากขึ้นกว่านี้
ตั้งคณะทำงานร่วมคลัง-คมนาคม ดูแผนฟื้นฟู THAI
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแผนฟื้นฟูวิกฤติบริษัท การบินไทย ว่า ในวันนี้ได้ตั้งคณะทำงานอย่างไม่เป็นทางการเพื่อเข้ามาดูแผนฟื้นฟูวิกฤตการบินไทย โดยจะมีตัวแทนจากกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม
โดยคณะทำงานชุดดังกล่าวจะวางแนวทางอย่างเร่งด่วนในการฟื้นฟูภายใน 3-6 เดือนข้างหน้า รวมถึงแผนระยะยาวด้วย ซึ่งการบินไทยจะต้องจัดทำแผนฟื้นฟูและแสดงความสามารถให้ได้ว่าจะสามารถแข่งขันได้
รักษาสถานะสายการบินแห่งชาติ
ส่วนอนาคตการบินไทยจะเป็นสายการบินแห่งชาติหรือรัฐวิสาหกิจต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการบินไทยเอง แต่กระทรวงคลังและคมนาคมได้วางแผนจะเข้าไปดูแลการบินไทยอยู่แล้ว คณะทำงานชุดนี้และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะวางแนวทางร่วมกันและหาทางออกที่ดีที่สุด
“พวกเรายืนยันว่าอยากเห็นการบินไทยอยู่ต่อไป เพราะอยู่มานานแล้ว แต่ต้องได้ความร่วมมือทั้งจากรัฐบาลและทุกฝ่าย และยืนยันว่าการบินไทยยังมีสภาพคล่องเพียงพอที่จ่ายเงินเดือนพนักงาน แผนจะเสร็จเมื่อไร ถูกขีดเส้นไว้ด้วยสภาพคล่องอยู่แล้ว” สมคิด กล่าว
อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ยังไม่ได้หารือว่าจะให้รัฐวิสาหกิจรายอื่นเข้ามาซื้อหุ้นการบินไทย คงต้องรอให้ฝ่ายบริหารการบินไทยจัดทำแผนฟื้นฟูให้แล้วเสร็จ เมื่อแผนสมบูรณ์จะมีความชัดเจนในทุกองค์ประกอบ การเสริมสภาพคล่องแข่งขันได้
คาดสรุปแผนฟื้นฟูได้สัปดาห์หน้า
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า หลังจากหารือวันนี้ จะต้องสรุปแผนฟื้นฟูวิกฤตการบินไทยให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูรอบใหม่จะทำให้การบินไทยกลับมาแข็งแรง
โบรกฯ ลุ้นมาตรการอุดรูรั่วสภาพคล่องได้มากน้อยแค่ไหน
กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด เปิดเผยว่า จากกรณีที่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแก้ไขปัญหาและแผนฟื้นฟูการบินไทย มองว่าเป็นมาตรการที่ภาครัฐกำลังจะช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอดูว่ามาตรการดังกล่าวนั้นจะช่วยลดปัญหาเรื่องของสภาพคล่องที่หายไปได้อย่างไร ประกอบกับจะมีแผนการปรับโครงสร้างให้สายการบินแห่งชาติมีผลประกอบการเป็นบวกในระยะยาวได้หรือไม่ ขณะเดียวกันถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาได้พยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอดนั้น จะต้องกลับมาทบทวนว่าส่วนที่มีการแก้ไขนั้นได้ผลอะไรบ้าง
“จากนี้ก็คงจะต้องรอดูว่ามาตรการที่ออกมาจะเป็นอย่างไร จะมีการอุดรูรั่วเรื่องของสภาพคล่องได้มากน้อยแค่ไหน และแผนการปรับโครงสร้างจะทำให้สายการบินแห่งชาติฟื้นกลับมามีผลประกอบการที่เป็นบวกได้หรือไม่” กรภัทร กล่าว
ทั้งนี้ราคาหุ้น THAI ปิดที่ 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท (+14.41%) มูลค่าการซื้อขาย 258.46 ล้าน
เรียบเรียง: ประน้อม บุญร่วม
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า