‘เชียงใหม่ริมดอย’ ทะยานกว่า 23% นักลงทุนลุ้นพลิกมีกำไรหลังคว้างานใหม่เพิ่ม 322 ล้านบาท ด้านนักวิเคราะห์เตือนระวังแรงขายทำกำไรหุ้นเล็ก

หุ้น บมจ.เชียงใหม่ริมดอย หรือ CRD ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ (19 มกราคม) โดยเปิดการซื้อขายในแดนบวก และพุ่งทำราคาสูงสุดที่ 1.75 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวานนี้ ในอัตรา 23.23% โดยราคาสูงสุดวันนี้ (20 มกราคม) นับเป็นราคาสูงสุดตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai

ขณะที่ราคาปิดการซื้อขายช่วงเช้าอยู่ที่ 1.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาทจากวันก่อนหน้า หรือเพิ่มขึ้น 15.49% มูลค่าซื้อขายหนาแน่นเป็นอันดับที่ 1 ในตลาด mai อยู่ที่ 479.34 ล้านบาท

ราคาหุ้น CRD ปรับขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่บริษัทแจ้งข่าวว่า ได้รับงานใหม่เพิ่ม โดยเมื่อวัน 13 มกราคมที่ผ่านมา CRD แจ้งว่าได้รับงานก่อสร้างใหม่ 1 โครงการ เป็นงานจ้างเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมประกอบอาหาร โครงการ Atlanta Medicare Institute มูลค่าโครงการ 322 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ระยะเวลาโครงการ 20 ธันวาคม 2564 – 20 พฤศจิกายน 2565

ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้วางเป้าหมายการเติบโตในช่วง 5 ปีจากนี้ คาดหวังว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นไปแตะ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเฉลี่ย 1,500 ล้านบาทต่อปี และธุรกิจบริหารจัดการขยะมูลฝอยอีกราว 500 ล้านบาทต่อปี

ขณะเดียวกัน ยังได้วางยุทธ์ศาสตร์ขยายเข้าในธุรกิจอื่นๆ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ใกล้เคียงกับงานรับเหมาก่อสร้าง และในอนาคตก็อาจพิจารณาแนวทางการซื้อกิจการ (M&A) เพื่อต่อยอดธุรกิจสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อไปในอนาคต

ด้านผลการดำเนินงานของ CRD ในปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 797.92 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2564 มีรายได้รวม 660.69 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 บริษัทขาดทุนสุทธิ 90.98 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2564 พลิกมีกำไรสุทธิ 11.86 ล้านบาท

ทั้งนี้ CRD เป็นผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้างทั่วไป และงานระบบสาธารณูปโภค

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ในช่วงนี้มีการเก็งกำไรหุ้นที่ผลประกอบการถูกคาดหวังว่าจะออกมาดี และหุ้นที่มีขนาดเล็กค่อนข้างมาก สังเกตได้จากหุ้นเข้ามาติดกลุ่ม Top 10 Most Active Value และ Top 10 Gainers มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ค่อยซ้ำกัน สะท้อนถึงการสลับสับเปลี่ยนกันเข้าเก็งกำไร

สำหรับหุ้น CRD ประเมินว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่ถูกเก็งกำไรจากความคาดหวังเรื่องผลประกอบการจะพลิกกับมาเป็นกำไรสุทธิได้ หลังจากที่บริษัทขาดทุนมา 2 ปี คือปี 2562-2563 นอกจากนี้ ยังได้รับแรงเก็งกำไรจากการเป็นหุ้นรับเหมาก่อสร้างด้วย เนื่องจากปกติแล้วเมื่อภาครัฐมีการประกาศโครงการลงทุนต่างๆ ในช่วงต้นปีงบประมาณ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะปรับเพิ่มขึ้นเสมอ แต่ปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564) ภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนยังชะงักจากการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้หุ้นกลุ่มรับเหมายังไม่ขยับขึ้นมาก เมื่อเข้าสู่ต้นปีปฏิทิน ข่าวนี้จึงถูกหยิบยกมาเก็งกำไรอีกครั้ง

นักวิเคราะห์กล่าวว่า เนื่องจาก CRD เป็นหุ้นขนาดเล็ก จึงยังไม่ได้วิเคราะห์ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน และไม่สามารถประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ แต่ในเชิง Sentiment เชื่อว่าแรงเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กจะสลับหุ้นไปเรื่อยๆ การเทขายเพื่อทำกำไรจึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงอยากให้นักลงทุนระมัดระวังการเข้าลงทุนตามกระแสเก็งกำไรด้วย

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH