เกิดอะไรขึ้น:
บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) อัปเดตธุรกิจสร้างการเติบโตใหม่สำหรับธุรกิจฟู้ดในประเทศไทยด้วยการรีแบรนด์ ‘Tops’ เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น โดยสรุปเป็น 3 ประการดังนี้
ประการแรก CRC ได้รีแบรนด์ Tops Market และ Tops Daily (ซูเปอร์มาร์เก็ตและมินิซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีพื้นที่ขาย 3,000 และ 200 ตร.ม. ต่อสาขา) และ Tops Online เป็น Tops เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565 บริษัทวางแผนรีแบรนด์ Tops 25 สาขาในปี 2565 และครบทุกสาขา (298 สาขาในปัจจุบัน) ในปี 2566
ประการที่สอง CRC ได้เปิดตัวร้านค้ารูปแบบใหม่ในปี 2565 ได้แก่ Tops Food Hall (15 สาขาในปัจจุบัน พื้นที่ 5,000 ตร.ม. ต่อสาขา โดยรีแบรนด์จาก Central Food Hall และเปลี่ยนจาก Tops Market), Tops Fine Food (เปิด 2 สาขาแรกในปี 2565 ที่สุขุมวิท 39 และเอกมัย พื้นที่ขาย 600 ตร.ม. ต่อสาขา) และ Tops CLUB (เปิดสาขาแรกที่พระราม 2 ในเดือนตุลาคม 2565 พื้นที่ขาย 15,000 ตร.ม. ต่อสาขา) เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปและเติมเต็มช่องว่างตลาด
บริษัทตั้งเป้าวางตำแหน่งแบรนด์สำหรับ Tops เป็นร้านค้ามาตรฐาน Tops Food Hall และ Tops Fine Food เป็นร้านค้าพรีเมียม (นำเสนอสินค้าระดับพรีเมียมทั่วโลกและสินค้าอาหารสดมากกว่า Tops) และ Tops CLUB เป็นร้านค้ารูปแบบใหม่ในระบบสมาชิก
ประการที่สาม บริษัทวางแผนสร้างแบรนด์ Tops ให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น (สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์จากทั่วทุกมุมโลก สินค้านำเข้า อาหารสดที่ดีที่สุด สินค้า Private Label ที่มีราคาสมเหตุสมผล) ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยร้านค้าคอนเซปต์ใหม่และบริการที่เป็นเลิศ และสิทธิพิเศษเฉพาะบุคคล
นอกจากนี้ CRC ได้เปิดร้าน Tops CLUB แห่งแรก ซึ่งเป็นโมเดลร้านค้าปลีกรูปแบบคลังสินค้าในระบบสมาชิก คล้ายกับ Costco (มีสาขาทั่วโลก) และ Sam’s Club ของ Walmart (สาขาส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา) ที่พระราม 2 ในเดือนตุลาคม 2565 บริษัทมุ่งเป้าไปที่ลูกค้า B2C โดยนำเสนอสินค้าแพ็กใหญ่ (Value Pack) จำนวน 4,000 SKUs และสินค้านำเข้า 80% (ส่วนใหญ่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ)
Tops CLUB มีสมาชิกแล้ว 85,000 คน แบ่งเป็นสมาชิกระดับพรีเมียม 30% (ค่าสมาชิกช่วง Early Bird 799 บาทต่อปี และค่าสมาชิกราคาปกติ 999 บาทต่อปี พร้อมส่วนลด 5% ข้อเสนอพิเศษ บริการจัดส่งฟรีบนแอปพลิเคชัน Tops Club และบริการ Personal Shopper) และสมาชิกทั่วไป 70% (ไม่มีค่าสมาชิก)
นับถึงปัจจุบัน การดำเนินงานสอดคล้องกับเป้าหมายยอดขายต่อปีที่ 1 พันล้านบาทต่อสาขา บริษัทวางแผนมีสาขา 8-10 สาขาภายในปี 2570 บริษัทตั้งเป้าพัฒนาแพลตฟอร์ม Omnichannel ของ Tops CLUB ด้วยการนำเสนอบริการ Personal Shopper ในช่องทาง Chat & Shop สำหรับสมาชิกระดับพรีเมียมในเดือนพฤศจิกายน 2565 ย้าย Fulfilment Center จาก Tops CLUB พระราม 2 ในเดือนธันวาคม 2565 และนำเสนอสินค้ามากกว่า 2,000 SKUs ในแอปพลิเคชัน Tops CLUB ภายใน 1Q66
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น CRC ปรับเพิ่มขึ้น 4.76%MoM สู่ระดับ 44.00 บาท ดีกว่า SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 2.47%MoM สู่ระดับ 1,648.44 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565-2566:
ใน 4Q65TD ยอดขายสาขา (SSS) เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับสูง YoY โดยเพิ่มขึ้นทุกประเทศ (เพิ่มขึ้น 5%YoY ในประเทศไทย, 15%YoY ในเวียดนาม และ 20%YoY ในอิตาลี) ทั้งๆ ที่ฐานของปีก่อนสูงหลังจากกลับมาเปิดให้บริการสาขาในเวียดนาม ฝนตกหนัก และน้ำท่วมในประเทศไทยในช่วงต้น 4Q65 เมื่อจำแนกตามกลุ่มธุรกิจ SSS เติบโตสูงกว่า 15%YoY ในธุรกิจแฟชั่นและธุรกิจฟู้ด แต่ลดลงราว 5%YoY ในธุรกิจฮาร์ดไลน์
InnovestX Research คาดว่าผลประกอบการ 4Q65 จะเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายปลีกและรายได้จากการให้เช่าที่ฟื้นตัว และมาร์จิ้นที่กว้างขึ้น และเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ส่วนกำไรปี 2565 คาดอยู่ที่ 6.30 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิเพียง 59 ล้านบาทในปี 2564
สำหรับปี 2566 คาดว่ากำไรปกติจะเติบโตต่อเนื่องราว 25%YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจให้เช่า และมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือการเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 12 หุ้นปันผล 2565 ขึ้น XD (9-12 พ.ค. 2565) อัตราปันผลสูงเกิน 5% ขึ้นไป
- 9 หุ้น จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 5% ตลอด 5 ปี แถมราคาตั้งแต่ต้นปียังบวก
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65
