×

เริ่มคึกคัก! CPN เผยลูกค้าทยอยกลับมาใช้บริการแล้ว 50-70% หลังคลายล็อกดาวน์ เตรียมเปิดศูนย์การค้าเพิ่มอีก 2 แห่ง ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้

30.09.2021
  • LOADING...
CPN

บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) รับผลบวกจากมาตรการทยอยคลายล็อกดาวน์ของ ศบค. โดยศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ (Traffic Recovery) แล้ว 50-70% และคาดว่าจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการจะเพิ่มเป็น 70-80% ได้ภายในไตรมาส 4 นี้ 

 

ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า จากมติ ศบค. ที่ทยอยคลายล็อกดาวน์ โดยเปิดให้ร้านอาหารและร้านค้าในศูนย์การค้ากลับมาให้บริการได้ตามปกติ พบว่าศูนย์การค้าภายใต้การบริหารของ CPN โดยเฉพาะศูนย์การค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ (Traffic Recovery) ถึง 50-70% ภายในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนหลังคลายล็อกดาวน์ และคาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มเป็นประมาณ 70-80% ภายในไตรมาส 4 นี้ 

 

“คนอยากออกจากบ้าน อยากมาเดินห้าง มาช้อปปิ้ง มานั่งกินอาหาร พอคลายล็อกดาวน์คนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ ศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ มีคนมาเดิน 50-70% แล้ว แต่ศูนย์การค้าในต่างจังหวัดจะมีคนมาเดินมากกว่า เพราะเขาจะไม่กลัวเท่าคนกรุงเทพฯ ดังนั้นเราก็จะเปิดศูนย์การค้าในต่างจังหวัดได้ตามแผน”

 

โดยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ CPN เตรียมจะเปิดให้บริการศูนย์การค้าแห่งใหม่ในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล ศรีราชา ที่จะเปิดในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ และศูนย์การค้า เซ็นทรัล อยุธยา ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน เบื้องต้นคาดว่าศูนย์การค้าทั้ง 2 สาขาใหม่จะมีผู้เข้ามาใช้บริการ 70% ต่อวัน 

 

ส่วนศูนย์การค้า เซ็นทรัล จันทบุรี คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565 ตามแผนงานที่วางไว้

 

CPN เป็นผู้บริหารศูนย์การค้ารายใหญ่ของไทย โดยมีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 34 แห่ง และสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 36 แห่ง เช่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล วิลเลจ 

 

ณัฐกิตติ์ยังกล่าวด้วยว่า CPN ได้ปรับตัวเพื่อตอบรับกับโจทย์ใหม่ของการใช้ชีวิตหลังโควิดและการดิสรัปชัน ด้วยการพัฒนา Business Model ขึ้นมาใหม่ภายใต้กลยุทธ์ Scaling Up Your Business เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมกับพันธมิตรธุรกิจ โดยวางเป้าหมายใน 3 ปี จะใช้งบการตลาด 1 พันล้านบาทในการพัฒนาระบบดาต้า เพื่อสนับสนุนธุรกิจของพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการสร้างจุดต่างและจุดแข็งของการเป็นศูนย์การค้าด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ

             

  1. ENABLE to scale up your business คือการผลักดันการขยายธุรกิจไปกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลจากปัจจุบันที่มี 34 สาขาทั้งในและต่างประเทศ

 

  1. ENSURE excellent services, facilities and synergies ที่จะรองรับการเริ่มต้นและเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ 

 

  1. EMPOWER with Big Data ด้วยการเข้าร่วมใน Ecosystem ของ The 1 ซึ่งเป็น Digital Lifestyle & Loyalty Platform อันดับ 1 ของประเทศ

 

“สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้คือ การสร้างเศรษฐกิจประเทศไปสู่การทำ Retail Marketing แห่งอนาคต ที่สามารถทำให้พันธมิตรคู่ค้าทุกระดับของเซ็นทรัลพัฒนาเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน เซ็นทรัลพัฒนาจับมือเคียงข้างกับพันธมิตร เป็น Drive Force ในการสร้าง Integrated Business Ecosystem ที่แข็งแกร่งและดีที่สุดที่จะสร้างโอกาสให้พันธมิตรผู้ประกอบการของเราที่มีอยู่จำนวน 15,000 รายทั่วประเทศสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับมหภาคทั่วประเทศได้”

 

ทั้งนี้จาก 3 กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยสร้างการเติบโตให้ CPN และร้านค้าพันธมิตรอย่างยั่งยืน โดยกลยุทธ์ ENABLE to scale up your business จะช่วยเพิ่มทราฟฟิกลูกค้าที่จะเข้ามายังศูนย์การค้า การทำ Brand Experience และซึ่งมองว่าการมีหน้าร้านยังคงมีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อการสร้างแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งจะเห็นได้จากเทรนด์ค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้ขยายจากออนไลน์มาสู่ออฟไลน์ เพื่อมอบประสบการณ์จริงให้กับลูกค้าได้มากกว่าทางออนไลน์อย่างเดียวจากจุดแข็งของการมีศูนย์การค้าทั่วประเทศ

 

โดย CPN จะพัฒนาโครงการในรูปแบบ Fully-Integrated Mixed-Use Development ขยายและบุกเมืองเศรษฐกิจต่างๆ จากความเชี่ยวชาญในการผสานทุกองค์ประกอบทั้งศูนย์การค้า โรงแรม คอนเวนชั่นฮอลล์ ที่พักอาศัย ให้ส่งเสริมซึ่งกันและกันเกิดเป็น Quality Traffic Ecosystem โดยการสร้าง Residential Projects ติดหรือใกล้กับศูนย์การค้า คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2567) จำนวนโครงการและจำนวนลูกบ้านในโครงการของเซ็นทรัลพัฒนาทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งจะเป็น Regular Traffic ที่จะเพิ่มขึ้นจากทราฟฟิกปกติที่มีอยู่แล้วอย่างน้อยหลายหมื่นคนต่อวันต่อสาขา

 

เป้าหมายของศูนย์การค้าเซ็นทรัลคือการเป็น Center of Life ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทุกกลุ่ม รวมถึงเรายังสร้างคอมมูนิตี้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มโอกาสในการมี Brand Exposure ดึงดูดทั้งลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้า Loyalty นอกจากนี้ลูกค้ายังคงให้การตอบรับการมาใช้บริการศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง 

 

สำหรับกลยุทธ์ ENSURE excellent services, facilities and synergies ถือเป็นหัวใจของร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ ในการทำธุรกิจร่วมกับศูนย์การค้า คือการมี Services & Facilities ส่วนกลางที่พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า มีการลงทุนในด้านต่างๆ ที่จะช่วยซัพพอร์ตธุรกิจของคู่ค้า ทำให้ Scale Up ได้รวดเร็วกว่าการทำสาขาสแตนด์อโลน ไม่ว่าจะเป็นด้าน Hygiene & Safety Facility แผนการตลาดช่วยดันยอดขายและช่วยในการสร้างแบรนด์ การทำ CRM Marketing รวมไปถึง Knowledge & Know-how 

 

นอกจากนี้ศูนย์การค้าจะช่วยโปรโมตและสร้างกระแสให้กับร้านค้า การสร้างยอดขายเพิ่ม ด้วย New Disruptive Sales Channels คือการคิดค้นบริการบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีที่ช่วยสร้างยอดขายให้กับร้านค้า อาทิ Omnichannel Services อย่าง Chat & Shop และ Central Kitchen เป็นต้น

 

สำหรับกลยุทธ์ EMPOWER with Big Data คือการจับมือกับพาร์ตเนอร์ในเครืออย่าง The 1 ซึ่งเป็น Digital Lifestyle & Loyalty Platform อันดับ 1 ของประเทศ ด้วยจุดแข็งของการเป็น Established Database ในวงการรีเทลมากว่า 15 ปี เนื่องจากในส่วนการทำ CRM หากแบรนด์ต้องลงทุนเองจะมีค่าใช้จ่ายมหาศาล โดยสมาชิก The 1 ที่มีทั่วประเทศกว่า 18 ล้านคน มีสมาชิกที่ใช้งานสม่ำเสมอสูงถึงกว่า 8.4 ล้านคนต่อปี รวมถึงมีการสะสมคะแนนกว่า 14,000 ล้านคะแนนต่อปี การที่ร้านค้าได้เข้ามาอยู่ใน Ecosystem นี้จะสามารถทำ CRM ได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น 

 

ด้าน ระวี พัวพรพงษ์ Head of Corporate Affairs and Relationship เดอะ วัน (The 1) กล่าวว่า การเข้าร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา Scaling Up ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและใหญ่ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดประตูด่านแรกเข้าสู่โลกแห่งบิ๊กดาต้า ซึ่งจะช่วยร้านค้าและแบรนด์ให้เข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น สามารถออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดในการจับกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ วัดผลได้ และสร้างยอดขายได้จริง 

 

จุดแข็งของ The 1 คือมีฐานสมาชิกร้านค้าใน Ecosystem ที่แข็งแกร่งทั้งในและนอก กลุ่มเซ็นทรัลทั่วประเทศ กว่า 2,000 แบรนด์ รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 ทัชพอยต์ ที่เชื่อมโยงลูกค้ากว่า 18 ล้านรายผ่านแอปพลิเคชัน The 1 ที่รวบรวมทั้งส่วนลด รีวอร์ด และคอนเทนต์สำหรับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมทั้งฟีเจอร์ที่ช่วยในการช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และออฟไลน์

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising