CPF จับปลาหมอคางดำ ผลิต ‘น้ำปลาหับเผยแม่กลอง’ ร่วมมือกับ กรมราชทัณฑ์ กรมประมง ส่งขึ้นแท่นสินค้าโอทอปสมุทรสงคราม พร้อมวางตลาด พ.ย. นี้
จังหวัดสมุทรสงครามยกระดับ ‘น้ำปลาหับเผยแม่กลอง’ ผลิตภัณฑ์จากปลาหมอคางดำ ขึ้นเป็นสินค้าโอทอป (OTOP) อย่างเป็นทางการ โดยเตรียมวางจำหน่ายสู่ตลาดภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
โดย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ได้ออกหนังสือรับรองขึ้นทะเบียน ‘น้ำปลาหับเผยแม่กลอง’ ขึ้นเป็นสินค้าโอทอปอย่างเป็นทางการ โดยมีเรือนจำกลางสมุทรสงครามเป็นผู้ผลิต ภายใต้การนำของนายโอชา วณิโชภาส พร้อมได้รับรหัสผู้ประกอบการเลขที่ 7501001128
ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างเรือนจำกลางสมุทรสงคราม กรมราชทัณฑ์ กรมประมง และบริษัท ซีพีเอฟ จำกัด (มหาชน) ในการนำปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารสร้างมูลค่าเพิ่ม
มานิต หนูเทศ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรสงคราม กล่าวว่า โครงการนี้เกิดจากการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ปัญหาปลาหมอคางดำในธรรมชาติ โดยนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์น้ำปลาแท้ พร้อมใช้เป็นหลักสูตรฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขัง เพื่อสร้างโอกาสและอาชีพหลังพ้นโทษ ขณะเดียวกันยังช่วยขยายผลสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง
ด้าน วิรัตน สนิทมัจโร ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวต่อว่า การแปรรูปปลาหมอคางดำเป็นน้ำปลาเป็นหนึ่งในแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ลดปริมาณปลาหมอคางดำในธรรมชาติให้อยู่ในระดับควบคุมได้ พร้อมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้ต้องขัง รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากปลาหมอคางดำในวงกว้างมากขึ้น
“เรียกได้ว่า การขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าโอทอป จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค และจูงใจให้มีการนำปลาหมอคางดำไปแปรรูปเชิงพาณิชย์มากขึ้น ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่น ๆ นำไปต่อยอดและช่วยลดปริมาณปลาหมอคางดำอย่างเป็นระบบ” วิรัตน ย้ำ
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนได้ให้คำแนะนำด้านมาตรฐานการผลิตเพื่อให้ได้สินค้าที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และคงเอกลักษณ์ท้องถิ่น โดยใช้วัตถุดิบหลักคือ ปลาหมอคางดำ และ เกลือสมุทร ทำให้น้ำปลาหับเผยแม่กลองมีรสชาติเฉพาะตัว และสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน หลายจังหวัด เช่น สมุทรสาคร เพชรบุรี และสมุทรปราการ ได้นำแนวทางนี้ไปใช้ในการแปรรูปปลาหมอคางดำเป็นน้ำปลาเช่นกัน โดยกรมประมงสนับสนุนให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ให้ชุมชน พร้อมผลักดันให้เป็นต้นแบบของการแก้ปัญหาทรัพยากรประมงและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน


