เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q67 ของ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 10 พฤษภาคม 2567
โดยคาดว่า CPALL จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q67 ที่ 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%YoY แต่ลดลง 8%QoQ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะไม่มีรายการพิเศษ (เทียบกับ 344 ล้านบาทใน 1Q66 และลดลง 116 ล้านบาทใน 4Q66) ส่งผลให้กำไรปกติ 1Q67 จะอยู่ที่ 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%YoY แต่ลดลง 10%QoQ โดยมีปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนกำไรเพิ่มขึ้น YoY ดังนี้
ปัจจัยแรก ยอดขายจากธุรกิจ CVS จะปรับตัวเพิ่มขึ้นผ่านการเติบโตของ SSS ที่ เพิ่มขึ้น 4%YoY (เทียบกับเพิ่มขึ้น 3.6%YoY ใน 4Q66) และการขยายสาขา (เพิ่มขึ้น 150 สาขา สู่ 14,695 สาขา, เพิ่มขึ้น 5%YoY และเพิ่มขึ้น 1%QoQ) โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้นที่ CPRAM จากต้นทุนวัตถุดิบสุกรที่ลดลง และยอดขายสินค้ากลุ่มของใช้ส่วนตัว และ Ready-to-Eat (RTE) ที่มีมาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว และการซื้อแบบไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าเพิ่มมากขึ้น และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่ลดลงจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ลดลง
ปัจจัยที่สอง คาดการณ์ส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นจาก CPAXT โดยประเมินกำไรปกติ 1Q67 ได้ที่ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%YoY จากยอดขายและ EBIT Margin ที่ดีขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากการรีไฟแนนซ์หนี้ แต่ลดลง 23%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
นอกจากนี้ ใน 2Q67 ยอดขายสาขา (SSS) ของ CPALL น่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น หลักๆ เกิดจากการเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่เดือนมีนาคม และนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เพิ่มขึ้นจากวันหยุดยาว ประกอบกับอากาศร้อนอ้างอิงการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา (TMD) อุณหภูมิจะสูงกว่าค่าเฉลี่ย 1-1.5 องศาเซลเซียสใน 2Q67 โดยทั่วไปสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นจะทำให้ยอดขายสินค้ากลุ่ม RTE และ RTD ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เมื่ออิงกับความคืบหน้าของมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต CPALL อยู่ในตำแหน่งที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ เนื่องจากเป็นเพียงบริษัทเดียวที่มีสาขาครอบคลุมทุกอำเภอในประเทศไทย หากมาตรการนี้ได้รับการอนุมัติ ยอดขายและกำไรจะมี Upside ใน 4Q67
ส่วนการคาดการณ์ว่า ธปท. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50bps YoY ในปี 2567 เริ่มตั้งแต่ 2Q67 ซึ่งจะหนุนให้กำไรของ CPALL ปรับเพิ่มขึ้นได้อีก 4% โดยอิงกับอัตราดอกเบี้ยลอยตัวของบริษัท และหนี้สินอัตราดอกเบี้ยคงที่ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น CPALL ปรับลง 1.32% สู่ระดับ 56.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 1.20% สู่ระดับ 1,375.58 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
ราคาหุ้น CPALL ปรับตัว Underperform SET อยู่ 3% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดมีความกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับการที่บริษัทจะรับซื้อหุ้น CPAXT จากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการควบรวมกิจการของ CPAXT กับ Ek-Chai ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของ CPAXT เมื่อวันที่ 29 มีนาคม CPALL น่าจะใช้เงินเพียง 14 ล้านบาท (ใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในกิจการ) ในการรับซื้อหุ้นของ CPAXT ในส่วนผู้ที่คัดค้าน ราคาหุ้น CPALL มีแนวโน้มจะกลับมาปรับตัว Outperform จากกำไร 1Q67 ที่มีแนวโน้มเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ SSS ของธุรกิจ CVS จะเติบโตแข็งแกร่งใน 2Q67 และมี Upside จากมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
InnovestX Research ยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ CPALL โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF (WACC 7% และการเติบโตระยะยาว 2.5%) ที่ 75 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันหุ้น CPALL ซื้อขายที่ P/E ปี 2567 ระดับ 24 เท่า (-1.5S.D. จาก P/E เฉลี่ย 10 ปี)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังและนโยบายของรัฐบาล ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญคือ การบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) และแนวปฏิบัติด้านการจ้างงาน (S)
