การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในวันนี้ (15 มีนาคม) วันเดียว 32 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยสะสมมีจำนวน 114 รายแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เพียงในประเทศไทย หลายประเทศก็ต้องเจอปัญหาโรคระบาดนี้เช่นเดียวกัน ทำให้ต้องออกมาตรการในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น
THE STANDARD สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะโรคระบาดที่เกิดขึ้น พบว่าประชาชนจำนวนมากเริ่มตระหนกกับการเตรียมพร้อมรับมือ หลายคนโพสต์ภาพและข้อความผ่านโซเชียลมีเดียขณะไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแล้วพบประชาชนจำนวนมากไปจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นหนาแน่นกว่าภาวะปกติ บางคนให้ข้อมูลด้วยว่าไม่เคยเจอเหตุแบบนี้ในห้างสรรพสินค้าที่ตนเองมาเป็นประจำ บางคนยอมรับว่าวิตกกับภาวะโรคระบาดจนทำให้ต้องเตรียมพร้อมสำหรับอาหารการกิน บางคนโพสต์ภาพชั้นวางอาหารที่สินค้าว่างเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าที่หายไปจากชั้นคือปลากระป๋อง กระดาษทิชชู บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฯลฯ โดยมีภาพการต่อแถวเข้าคิวเพื่อชำระเงินอย่างคับคั่ง ทั้งในห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้าแบบปลีก รวมถึงห้างสรรพสินค้าที่มีการจำหน่ายสินค้าแบบค้าส่งด้วย
ภาวะดังกล่าวนี้อาจอธิบายได้ในเชิงจิตวิทยา ซึ่ง THE STANDARD ได้เขียนบทความอ้างอิงงานวิจัยจากต่างประเทศ โดยนักจิตวิทยาชี้ว่าภาพชั้นวางที่ว่างเปล่าและรถเข็นช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยเสบียงที่เผยแพร่ไปในโลกโซเชียลเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ประชาชนที่เห็นภาพเกิดความตื่นตระหนก และสรุปเอาเองว่ามีเหตุผลที่จำเป็นต้องรีบซื้อหาเสบียงและสิ่งของเครื่องใช้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่โซเชียลมีเดียถือเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการแพร่กระจายความหวาดกลัวจากโควิด-19 การเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาดได้ง่าย และการเป็นแพลตฟอร์มเปิดก็ช่วยขยายเสียงแห่งความตื่นตระหนกได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมต่อกรณีการกักตุนนี้ว่า ที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงการเตรียมมาตรการรองรับหากสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 ว่ากระทรวงการต่างประเทศจะต้องทำอะไร เตรียมการในส่วนใดบ้าง ฝ่ายความมั่นคงต้องไปพิจารณาว่าจะต้องใช้กฎหมายใดเพื่อเพิ่มเติมเป็นพิเศษ
พร้อมยอมรับว่าวันนี้ประชาชนเดือดร้อนเยอะ จึงอยากขอร้องว่าวันนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะต้องไปกักตุนอะไร อย่าไปกลัวถึงขนาดนั้น วันนี้มีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมาทั้งในเรื่องการติดตามตัว การใช้แอปพลิเคชันต่างๆ กำลังพิจารณาดูว่าจะบังคับใช้กับทุกคนได้หรือไม่ เพราะบางครั้งก็ติดในเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล โดยจะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าตัวด้วย
ขณะที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการเข้ามาหารือตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคไทย ซึ่งเปิดเผยว่าสำหรับในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด และจะประสานงานกับผู้ผลิต ผู้ค้า สมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา โดยกรมการค้าภายในจะเป็นหน่วยงานหลักในการคลี่คลายสถานการณ์และประสานงาน ซึ่งเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นกระทรวงพาณิชย์ทำงานเชิงรุกมากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ thestandard.co/coronavirus-coverage
และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโรคโควิด-19 ได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
