วานนี้ (16 ตุลาคม) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัว อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรม เป็นครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ภายหลัง อานนท์ถูกศาลพิพากษาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลงโทษจำคุก 4 ปี และลงโทษปรับ 20,000 บาท ไม่รอลงอาญา ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 จากกรณีการปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบ14ตุลา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563
โดยในการยื่นประกันตัวครั้งแรก ศาลอาญาได้ส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา และมีคำสั่งในวันที่ 30 กันยายน ไม่ให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีประกอบพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว การกระทำของจำเลยกระทบกระเทือนและสร้างความเสียหายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง
ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ไต่สวนพยานผู้ร้องก่อนมีคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนั้น เนื่องจากพยานหลักฐานในสำนวนเพียงพอต่อการวินิจฉัยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไต่สวนพยานผู้ร้องอีก ให้ยกคำร้องในส่วนนี้
ต่อมามีการยื่นประกันตัวเป็นครั้งที่สอง ซึ่งศาลอาญาได้ส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา ในที่สุดศาลอุทธรณ์ยกคำร้องขอประกันตัวอานนท์ หลังพิจารณา 5 วัน ระบุว่า “เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์อันเนื่องจากเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี และตามพฤติการณ์ยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงให้ยกคำร้อง”
