เช้าวันนี้ ที่ศาลทหารกรุงเทพ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักเขียนไทย และนักวิชาการอิสระ เจ้าของสมญานาม ‘ปัญญาชนสยาม’ เดินทางมารับฟังคำสั่งอัยการศาลทหาร ตามนัดหมายว่าจะสั่งฟ้องในคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่ หลังจากที่เขาอภิปรายเรื่องการทำยุทธหัตถีของ ‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ ในงานเสวนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ปี 2557
ขณะที่ก่อนหน้านี้ทนายความได้ยื่นหนังขอความเป็นธรรม ต่ออัยการศาลทหารให้สอบสวนพยานผู้เชี่ยวชาญที่เป็นนักวิชาการทางประวัติศาสตร์และกฎหมายจำนวนหนึ่ง เพื่อประกอบความเห็นในคดี
ล่าสุด อัยการศาลทหารมีความเห็นให้เลื่อนฟังคำสั่งในคดีนี้ออกไป และนัดหมายให้ฟังคำสั่งอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 17 มกราคม 2561 เนื่องจากเป็นคดีที่มีรายละเอียดที่ต้องเสาะแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก
สุลักษณ์ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศ ที่มาเกาะติดการรายงานข่าวของเขาในวันนี้ว่า ตนเองเตรียมตัวมาพร้อมและมีกำลังใจที่ดี ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด
“ผมเคยถูกกล่าวหาด้วยคดีลักษณนี้มาหลายครั้งตั้งแต่วัยฉกรรจ์จนกระทั่งถึงวัยชรา อายุ 85 ปีแล้ว ซึ่งการใช้กฎหมายนี้ต้องตีความตามตัวอักษรอย่างเคร่งครัด เหมือนที่ ศ.จิตติ ติงศภัทิย์ อดีตนักกฎหมายและองคมนตรีเคยให้ความเห็นไว้ และผมเห็นว่ากรณีนี้ไม่มีความผิด ไม่เช่นนั้นแล้วการเรียนหรือศึกษาประวัติศาสตร์น่าจะเป็นเรื่องยากในอนาคต”
สุลักษณ์ บอกอีกว่า มีทูตหลายประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ ได้เกาะติดกระบวนการดำเนินคดีกับเขา โดยเฉพาะองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ได้มีหนังสือส่งไปยังกระทรวงต่างประเทศของไทย ขอให้ยุติการดำเนินคดีนี้ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศก็ยืนยันว่าจะดำเนินการ แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาออกมาแต่อย่างใด
สำหรับบรรยากาศในวันนี้ มีลูกศิษย์ของสุลักษณ์จำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ และมีผู้แทนจากสถานทูตเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เดินทางมาเพื่อรับฟังการพิจารณาคำสั่งดังกล่าว แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องพิจารณาของศาลแต่อย่างใด หลังฟังคำสั่ง สุลักษณ์ให้สัมภาษณ์สื่อและเดินทางกลับทันที
คลิกอ่าน เรื่องราวของ ส.ศิวรักษ์ เพิ่มเติม ได้ที่ thestandard.co/sulak-sivaraksa-got-thammasat-honorary-degree