วันนี้ (31 กรกฎาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีความผิดทางเพศ หมายเลขดำ อ.2878/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง อภิดิศร์ อินทุลักษณ์ อายุ 36 ปี นักธุรกิจและหลานชายอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำชำเราและอนาจารหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย
โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 9-10 สิงหาคม 2565 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้บังอาจข่มขืนกระทำชำเราและกระทำอนาจาร จอย (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย โดยจำเลยนำเหล้าให้ผู้เสียหายดื่มจนมีอาการมึนเมา เคลิบเคลิ้ม ไม่รู้สึกตัว แล้วจำเลยได้กระทำชำเราผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายไม่ยินยอมและไม่อาจขัดขืนได้ จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว
วันนี้ทนายโจทก์และผู้เสียหายเดินทางมาศาล แต่ไม่ปรากฏตัวจำเลยมาแต่อย่างใด
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วแต่ไม่ได้มาศาล ไม่แจ้งเหตุขัดข้อง พฤติกรรมเชื่อได้ว่าจำเลยหลีกเลี่ยงมาฟังการพิจารณาคดี จึงให้ออกหมายจับจำเลยมาฟังคำพิพากษา ให้ยึดเงินประกันจำเลยจำนวน 1 ล้านบาท และให้เลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น.
มีรายงานว่าเวลา 11.00 น. ผู้เป็นตัวแทนจำเลยได้มาแจ้งต่อหน้าบัลลังก์ศาลว่าจำเลยกำลังเดินทางมา ทางศาลจึงรอให้โอกาส จนกระทั่งเวลา 13.00 น. ไม่ปรากฏว่ามีทนาย ตัวแทน หรือจำเลย มาแสดงตัวต่อศาล จึงให้ออกหมายจับตามที่ศาลพิเคราะห์ข้างต้น
ด้านผู้เสียหายเปิดเผยหลังฟังการพิจารณาว่า ตนไม่ได้เข้มแข็งขนาดที่จะมาฟังคำพิพากษาด้วยตนเองเช่นนี้ และก็ไม่ทราบด้วยว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร ตนเสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ คดีนานมาหลายปี อยากให้มันจบ แต่อีกฝ่ายก็ไม่มา เมื่อศาลออกหมายจับแล้วจึงอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ให้เรื่องทุกอย่างจบไวๆ คลี่คลายโดยเร็วและดีขึ้น
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาอีกฝ่ายได้ติดต่อบ้างหรือไม่ ผู้เสียหายกล่าวว่า มีส่งทนายโทรมาหาเรื่อยๆ เมื่อวาน (30 กรกฎาคม) ติดต่อมานัดให้ออกไปเจอ ทางเราบอกว่าให้ไปคุยกันที่ศาล จากนี้จะไม่มีการยอมไกล่เกลี่ยใดๆ
เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากถึงจำเลยหรือไม่ ผู้เสียหายกล่าวว่า ให้เลิกหนีและเข้ามาตามกระบวนกฎหมาย ถ้าผิดก็มายอมรับในส่วนนี้ จะได้เสร็จสิ้นจบๆ กันไป