ความเสี่ยงผิดนัดชำระของ Country Garden กำลังสร้างความหวาดหวั่นให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน หลังบริษัทเปิดเผยว่า มีแนวโน้มที่จะรายงานผลขาดทุนสูงถึง 7.6 พันล้านดอลลาร์ (หรือราว 2.6 แสนล้านบาท) ด้านนักวิเคราะห์ชี้ การผิดนัดชำระใดๆ ของ Country Garden จะส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยจีนมากกว่าการล่มสลายของ Evergrande เหตุ Country Garden มีโครงการมากกว่าถึง 4 เท่า
หุ้นกู้และหุ้นของ Country Garden Holdings Co., Ltd. ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีนจากยอดขาย ร่วงหนักในสัปดาห์นี้ หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 สิงหาคม) Country Garden พลาดการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ 2 ชุด โดยหากบริษัทไม่ชำระเงินภายในระยะเวลาผ่อนผัน 30 วัน (Grace Period) จะทำให้บริษัทเผชิญการผิดนัดชำระ (Default) เป็นครั้งแรก
โดยในวันนี้ (11 สิงหาคม) หุ้นของ Country Garden ร่วงถึง 14% อยู่ที่ 0.89 ดอลลาร์ฮ่องกง นับเป็นการปิดต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ฮ่องกงเป็นครั้งแรก ทำให้ตั้งแต่ต้นปี (YTD) หุ้น Country Garden ร่วงลงกว่า 65% แล้ว กลายเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดในดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 สิงหาคม) Country Garden เปิดเผยถึงความท้าทายด้านเงินทุน โดยกล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะขาดทุนสุทธิถึง 4.5 หมื่นล้านหยวน ถึง 5.5 หมื่นล้านหยวน (หรือราว 7.6 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023
Country Garden ยังกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า “เนื่องจากสภาวะการขายและการรีไฟแนนซ์ที่ถดถอยลงเมื่อเร็วๆ นี้ เงินทุนที่มีอยู่ในบัญชีของบริษัทจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านสภาพคล่อง”
โดยสื่อท้องถิ่นอย่าง Yicai รายงานว่า Country Garden กำลังเตรียมการปรับโครงสร้าง และจ้างที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว
ปัญหาหนี้ของ Country Garden กำลังยืนยันถึงความกังวลของนักลงทุนต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน ซึ่งกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง หลังจากการดีดตัวสั้นๆ ในช่วงไตรมาสแรก
โดยยอดขายบ้านในจีนในเดือนกรกฎาคม ร่วงลงมากที่สุดในรอบ 1 ปี ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นในการหาเงินสดที่จำเป็น
Monica Hsiao ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนจาก Triada Capital กล่าวว่า Country Garden อาจมีความเต็มใจที่จะจ่ายหนี้ แต่บริษัทน่าจะมีเงินไม่พอ
ตอนนี้นักลงทุนต่างเดิมพันว่า Country Garden กำลังจะเจอกับฉากทัศน์ที่แย่ที่สุด (Worst-Case Scenario) เห็นได้จากหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ของ Country Garden ที่ครบกำหนดในเดือนมกราคม ร่วงสู่ระดับ Distressed จาก 14.7 เซนต์เหลือเพียง 8.7 เซนต์ในสัปดาห์นี้ โดยตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg แสดงให้เห็นว่า ในเดือนธันวาคม หุ้นกู้ดังกล่าวเคยมีการซื้อขายที่ 75 เซนต์เลยทีเดียว
เมื่อวันพฤหัสบดี หุ้นกู้ของ Country Garden ยังถูก Moody’s Investors Service ลดอันดับลงถึง 3 อันดับ เหลือ Caa1 จาก B1
Country Garden ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีนจากยอดขายตามสัญญา ตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทมียอดขายสูงสุด อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัทตกลงสู่อันดับที่ 6 เนื่องจากยอดขายตกต่ำ หลังบริษัทมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาที่อยู่อาศัยในเมืองระดับล่าง ซึ่งได้รับผลกระทบหนักจากการชะลอตัวมากกว่าเมืองระดับ First-Tier เช่น ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้
เจาะหนี้สิน Country Garden พร้อมจ่ายหนี้แค่ไหน?
Country Garden นับเป็นผู้ออกหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน โดยมียอดคงค้างอยู่ที่ 9.9 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg
และที่เร่งด่วนกว่านั้นคือ Country Garden มีหุ้นกู้ Onshore และ Offshore ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ ที่จะครบกำหนดในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตามข้อมูลจาก China Index Academy
อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของ Reuters ระบุว่า บริษัทมีเงินสดที่ใช้ได้เหลือ ประมาณ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์เท่านั้น ณ สิ้นปี 2022 เทียบกับหนี้สินของบริษัทที่ประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2022
Kristy Hung นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence เขียนในรายงานเมื่อวันพุธว่า “การผิดนัดชำระใดๆ จะส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยของจีนมากกว่าการล่มสลายของ Evergrande เนื่องจาก Country Garden มีโครงการมากกว่าถึง 4 เท่า”
พร้อมทั้งกล่าวอีกว่า “วิกฤตหนี้ใดๆ ที่เกิดจาก Country Garden จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดที่อยู่อาศัยจีน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อที่มีต่อผู้พัฒนาเอกชนลดลงอย่างมาก”
รายงานของ Reuters ยังระบุว่า Country Garden แสดงท่าทีว่าต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม ในสายตาของรัฐบาล อาจคาดหวังให้ Country Garden ช่วยเหลือตัวเองได้มากกว่านี้ ตามรอย Evergrande ที่ก่อนหน้านี้พยายามหาวิธีต่างๆ มาชำระหนี้ของบริษัท ตั้งแต่การจำนำคฤหาสน์ ไปจนถึงการขายชิ้นงานศิลปะ
ก่อนหน้านี้หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลจีนพยายามที่จะฟื้นฟูอุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 5 ของ GDP จีน
โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางจีนได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ภาคเอกชน หลังจากคณะกรรมการ Politburo ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุด ส่งสัญญาณว่าจะใช้นโยบายที่ผ่อนคลายขึ้นสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเดือนกรกฎาคม
ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์ของจีน วางแผนที่จะจัดการประชุมเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในวันนี้ (11 สิงหาคม) โดยเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนที่เพิ่มขึ้นในหมู่หน่วยงานกำกับดูแล เพื่อจัดการกับวิกฤตที่อยู่อาศัยที่เลวร้ายลง
อ้างอิง:
