ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 มาตราที่ 8 ในการพิจารณางบประมาณวันแรก (17 สิงหาคม) แล้วเสร็จ ที่ประชุมจึงนัดลงมติมาตราที่ 8 ในวันนี้ (18 สิงหาคม) เวลา 09.30 น. ซึ่งเป็นวันที่สองในการพิจารณางบประมาณ โดยการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณในวันที่สองนี้ สามารถเปิดประชุมได้ในเวลา 10.00 น. เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ เมื่อองค์ประชุมครบสามารถเปิดประชุมได้แล้ว ศุภชัย โพธิ์สุ จึงทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม
ด้าน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้านค้าน ลุกขึ้นขอให้ประธานเปิดโอกาสให้ ส.ส. ได้ซักถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ซึ่งไม่ใช่การอภิปรายเพิ่มเติมแต่เป็นการซักถามต่อกระบวนการแปรญัตติ และการคืนงบประมาณของกองทัพอากาศว่าถูกต้องตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ เพื่อขอรับฟังคำตอบที่ชัดเจนยืนยันต่อสมาชิก เพราะการอนุมัติคืนเงินให้กองทัพอากาศเพียง 5% ต่ำกว่าที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติไว้ที่ 10 % เป็นอย่างต่ำ แต่กรรมาธิการอนุมัติคืนเพียง 5% และหวังให้ ครม. อนุมัติหลักการคืนเงิน 5% ตามกรรมาธิการ จึงต้องการฟังคำตอบในเชิงกฎหมายอย่างชัดเจน
ศุภชัยกล่าวว่า งบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมในมาตราที่ 8 นี้ ได้ปิดอภิปรายและการชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งหากสมาชิกมีประเด็นข้อสงสัยที่จะซักถามเพิ่มเติมก็สามารถใช้สิทธิได้ แต่จะต้องเป็นประเด็นที่ข้องใจจริงๆ จึงขอให้ กมธ. ชี้แจงในข้อซักถามของสมาชิก เพื่อสามารถเดินหน้าลงมติในมาตราดังกล่าวได้
ทำให้ วราเทพ รัตนากร ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ ได้ลุกขึ้นตอบข้อซักถามของสมาชิกถึงการคืนงบให้กองทัพอากาศที่ 5% ว่าข้อเท็จจริงนั้นทางอนุกรรมาธิการได้รายงานต่อกรรมาธิการคณะใหญ่ ถึงการตัดลดงบประมาณของกองทัพอากาศ ซึ่งต้องเรียนว่าการพิจารณาของคณะอนุกรรมมาธิการถือไม่เป็นที่สิ้นสุด ดังนั้นอำนาจในการพิจารณายังอยู่ในคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ ซึ่งมติของกรรมาธิการได้คืนงบในโครงการให้ประมาณ 300 ล้านบาท และตามที่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวข้องกับการอนุมัติงบประมาณที่ 5% ซึ่งต่ำกว่ามติ ครม. นั้น ไม่ใช่ข้อบังคับผูกพันกับการทำงบประมาณของ กมธ. ตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ หน่วยงานราชการเป็นผู้จัดตั้งงบ ส่วนการอนุมัตินั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
ท้ายที่สุดที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบกับการพิจารณางบประมาณมาตราที่ 8 ด้วยคะแนนเห็นชอบ 216 เสียง ไม่เห็นด้วย 83 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และ ไม่ลงคะแนน 2 เสียง