ก้าวต่อไปของ ‘Coty’ บริษัทยักษ์ใหญ่ต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสที่เติบโตจากผลิตภัณฑ์น้ำหอม พร้อมทำการตลาดสร้างยอดขายในไทยอย่างจริงจัง ด้วยการสร้างทีมผู้บริหารใหม่ เดินหน้านำสินค้าทั้งน้ำหอมและเครื่องสำอางดึงวัยรุ่นไทยที่มีกำลังซื้อสูง
หลังจากโควิดคลี่คลายลง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปและซับซ้อนมาก แต่ตลาดเครื่องสำอางและความงามยังเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียที่ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่มีขั้นตอนการแต่งหน้าถึง 8 สเต็ป และเริ่มหันมาดูแลตัวเองด้วยการฉีดน้ำหอม ทำให้ตลาดน้ำหอมเติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน
ในปี 2019 Coty เริ่มทำการตลาดเอง และในปี 2023 ได้เปิดสำนักงานใหญ่ที่อาคารภิรัช ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ พร้อมกับเปิดตัวหน่วยงานและทีมทำงานใหม่ทั้งหมด รวมถึงแต่งตั้ง ‘นฤธี อาสาสรรพกิจ’ ขึ้นดำรงตำแหน่ง Country Lead ในไทย พ่วงด้วยหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
การเคลื่อนทัพครั้งนี้เพื่อรองรับโอกาสตลาดที่จะมีส่วนช่วยให้ Coty หนึ่งในบริษัทด้านความงามรายใหญ่ที่มีแบรนด์ครอบคลุมผลิตภัณฑ์น้ำหอม เครื่องสำอางสำหรับการแต่งหน้า และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย ขยายธุรกิจได้กว้างขึ้น
“ทั้งหมดอยู่ภายใต้ภารกิจสำคัญคือ การเร่งขยายกลุ่มธุรกิจ Prestige และ Consumer Beauty ให้สร้างรายได้เติบโตกว่า 2 เท่าในอีก 4 ปีข้างหน้า” นฤธี อาสาสรรพกิจ Country Lead Coty ประเทศไทย กล่าว
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะตลาดมีความท้าทายอย่างมาก ตอนนี้ตลาดน้ำหอมและเครื่องสำอางของไทยที่มีมูลค่าสูงถึง 750 ล้านดอลลาร์ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตก็มาพร้อมกับการแข่งขันสูง ทั้งจากผู้เล่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หากเจาะลึกลงมาถึงกลุ่มน้ำหอมที่โตมากสุดคือ Ultra Premium เติบโต 30% เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาดูแลตัวเอง และมีความต้องการสินค้าเฉพาะบุคคล ไม่ต้องการใช้น้ำหอมกลิ่นซ้ำกับคนอื่น
สำหรับกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินงานต่อจากนี้ เตรียมเปิดตัวน้ำหอมรุ่นใหม่ ตามด้วยเครื่องสำอางและสกินแคร์ เน้นความพรีเมียม สร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด พร้อมกับการจัดแคมเปญสื่อสารแบรนด์และเปิดให้ทดลองใช้ โดยเมื่อไม่นานมานี้กลุ่มแบรนด์ Prestige ของ Coty ได้เปิดตัว ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ ขึ้นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของแบรนด์ Gucci Beauty ประเทศไทย
พร้อมกับเดินหน้าขยายสาขา Burberry อีก 12-20 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 4 สาขา โดยเป้าหมายหลักคือกลุ่มมิลเลนเนียลและ Gen Z อายุ 20-30 ปี
ทั้งนี้ ปัจจุบัน Coty ประเทศไทย ดูแลประมาณ 11 แบรนด์ เริ่มตั้งแต่ Gucci Beauty, Burberry Beauty, Chloé, Marc Jacobs ไปจนถึงน้ำหอม Calvin Klein และ Consumer Brands เช่น adidas, David Beckham และ Nautica
ถึงกระนั้น ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักมาจากผลิตภัณฑ์น้ำหอม 85% แต่เราจะค่อยๆ ขยับเข้าไปกลุ่มสินค้าเครื่องสำอางและสกินแคร์มากขึ้น ในอีก 3 ปีข้างหน้าเราตั้งเป้าเติบโต 20% และจะมีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องสำอางและความงามให้ได้ 2-3%
ทั้งนี้ รายได้ในไทยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1% ของยอดขายจาก 125 ประเทศที่ Coty ทำการตลาดอยู่ โดยปี 2023 คาดการณ์ตัวเลขรายได้จะอยู่ 5,600 ล้านดอลลาร์