วันนี้ (13 มกราคม) สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการปรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ปัญหาด้านค่าครองชีพครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนในทุกระดับ ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยผลกระทบต่อค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
สุทธิพงษ์กล่าวว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้ดำเนินการแก้ไขและบรรเทาปัญหาค่าครองชีพครัวเรือน ด้วยการจัดตลาดนัด ตลาดชุมชน จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัด พร้อมทั้งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสินค้า ไม่ให้มีการจำหน่ายเกินราคา กักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าฯ ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านค่าครองชีพครัวเรือนเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ตามแนวทางพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ การมีส่วนร่วม การพึ่งพาตนเอง รวมไปถึงการขับเคลื่อนโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) โดยการพัฒนาคนให้มีความรู้ในด้านต่างๆ ที่เหมาะสมกับภูมิสังคมของตนตามฐานะและกำลังในการประกอบสัมมาชีพเพื่อเลี้ยงตัวเองตามลำดับขั้น สร้างพื้นฐานในการดำรงชีพให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารในครัวเรือน ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกพืชสมุนไพร เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เป็นต้น พร้อมทั้งส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้ประกอบอาชีพและการประกอบอาชีพที่ยั่งยืน รวมไปถึงให้เชิญชวนกลุ่มและสมาชิกของกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กลุ่ม OTOP และภาคีเครือข่ายอื่นๆ จัดอบรม หรือฝึกสอนวิชาชีพ เช่น การทำอาหาร การจำหน่ายพืชผักสวนครัว หรือทำอาหารราคาประหยัด เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ
“กระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงภาวะที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น จากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน จึงได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด รวมถึงนายอำเภอและกลไกมหาดไทยในระดับพื้นที่ เร่งบูรณาการภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล การดำเนินโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ภายในบริเวณบ้านเรือน รวมถึงการเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เพื่อให้มีอาหารที่ปลอดสารพิษ อันจะทำให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร ลดรายจ่าย และอาจเพิ่มรายได้ของครัวเรือน ซึ่งจะส่งผลให้สามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพด้วยความสุขอย่างยั่งยืน จึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดผนึกกำลังทุกภาคส่วนช่วยกันขับเคลื่อนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง” สุทธิพงษ์กล่าวเน้นย้ำ