จากสถานการณ์แพร่เชื้อโรคโควิด-19 ระบาด ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ที่กำลังอยู่ในภาวะว่างงานเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด จารุพล เรืองเกตุ ประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงผลกระทบจากโรคโควิด-19 ต่ออาชีพมัคคุเทศก์ ภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 จัดขึ้น ณ ห้องประชุมชัยพฤกษ์ ชั้น 3 อาคารปฏิบัติการแผนกวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว วิทยาลัยเทคนิคกระบี่ จังหวัดกระบี่
โดยระบุว่า หลังจากที่เกิดโรคโควิด-19 ขึ้น ซึ่งมีการระบาดไปทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเริ่มชะลอตัว บางประเทศเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังการเดินทาง และบางประเทศนักท่องเที่ยวไม่เดินทางท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงไป 80-90%
ส่งผลให้บริษัทนำเที่ยวไม่มีลูกค้า ไม่มีการจ้างมัคคุเทศก์ทำงาน ทำให้มัคคุเทศก์ตกงานทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน และมัคคุเทศก์ส่วนใหญ่ไม่มีอาชีพอื่นรองรับ ทำให้ความเป็นอยู่ลำบาก เนื่องจากต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในแต่ละวันที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตั้งรับกับเหตุการณ์ดังกล่าว
“การจัดประชุมในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการรับฟังปัญหาจากสมาชิกทั่วประเทศว่ามีปัญหาและความต้องการอะไรบ้าง เพื่อจะได้รวบรวมส่งให้ทางรัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาให้ด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัญหาหนักสุดของมัคคุเทศก์ในตอนนี้คือ การไม่มีงานทำ เพราะการทำงานแต่ละวันคือ ค่าจ้าง ไม่มีเงินเดือน เหมือนลูกจ้างทั่วไป วันไหนหยุดทำงาน ก็ไม่มีเงิน”
นอกจากนี้ประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยยังได้กล่าวด้วยว่า “ซึ่งจากการรับฟังปัญหาของสมาชิกพบว่า สิ่งที่อยากให้รัฐบาลช่วยเร่งด่วนในตอนนี้คือ เรื่องการเงิน หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ส่วนเรื่องค่างวดที่ผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ค้างชำระกับบริษัทต่างๆ อยู่ ให้ผ่อนปรนหรือคงดอกปีไว้ก่อน และหากว่าขาดผ่อนชำระ ก็อย่าเพิ่งฟ้องร้องคดี ให้ชะลอไปก่อน เพราะจะเป็นการซ้ำเติม และต้องยอมรับจริงๆ ว่า ตั้งแต่ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์มากว่า 40 ปี ปีนี้ 2563 นี้ ถือเป็นปีที่อาชีพมัคคุเทศก์ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จึงได้ร่วมกันประชุมเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป” จารุพลกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
