สีจิ้นผิงรับ โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่ควบคุมยากสุดในรอบ 70 ปี เตือนผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนยอมรับว่า วิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เป็นสิ่งที่ป้องกันและควบคุมได้ยากที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 1949 พร้อมเตือนว่า การระบาดของไวรัสอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจจีน

สปีชของสีจิ้นผิง ซึ่งถ่ายทอดผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ ถึงหน่วยงานรัฐบาลและกรมทหารทุกแห่งทั่วประเทศ ระบุว่า โรคระบาดนี้แพร่กระจายเร็วที่สุด และมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีนสมัยใหม่ ซึ่งเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขของคนจีนทุกคน และยังเป็นบททดสอบที่สำคัญ

ผู้นำจีนยอมรับว่า จีนจำเป็นต้องเรียนรู้จากข้อบกพร่องที่ปรากฏชัดเจนในการตอบสนองต่อโรคระบาด และต้องปรับปรุงขีดความสามารถในการรับมือกับวิกฤตในอนาคต

นอกจากนี้สียังเตือนว่า สถานการณ์การระบาดในปัจจุบันยังคงรุนแรงและซับซ้อน ดังนั้นจึงป้องกันและควบคุมได้ยากมากในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ขณะเดียวกันโรคระบาดยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างร้ายแรง แต่ผู้นำจีนย้ำว่า ผลกระทบจะเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น และสามารถควบคุมได้

เขากล่าวว่า เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ 2 อันดับแรกในเวลานี้คือ การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสในเมืองอู่ฮั่นและเมืองโดยรอบในมณฑลหูเป่ย ตลอดจนป้องกันการแพร่กระจายสู่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงและศูนย์กลางทางการเมืองของจีน

“ก่อนอื่นเราต้องควบคุมการแพร่กระจายของโรคระบาด เพิ่มอัตราการรักษาหาย ลดจำนวนผู้ติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตลงอย่างมีประสิทธิภาพในมณฑลหูเป่ยและอู่ฮั่น” สีกล่าว

อย่างไรก็ตาม สีจิ้นผิงยืนยันว่า การประเมินสถานการณ์การระบาดของคณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นมีความถูกต้องแม่นยำ ที่ผ่านมามีการสั่งการได้ทันท่วงที และใช้มาตรการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนล่าสุดนั้น มียอดผู้ติดเชื้อมากถึง 76,947 ราย โดยจำนวนนี้เสียชีวิตมากกว่า 2,400 ราย และรักษาหาย 23,181 ราย

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: