ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ยืนยันว่า พบกรณีที่อาจเป็นการแพร่เชื้อของผู้ป่วยโควิด-19 สู่คนในประเทศครั้งแรก ซึ่งเป็นสัญญาณว่าไวรัสมีโอกาสแพร่กระจายไปตามเมืองระดับท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ
เจ้าหน้าที่ CDC ระบุว่า ผู้ป่วยรายใหม่เป็นชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในโซลาโน เคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งรับการรักษาอยู่ในซาคลาเมนโต เคาน์ตี แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเขาติดไวรัสโคโรนา 2019 มาได้อย่างไร เพราะไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง หรือติดต่อสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อรายอื่น
CDC ระบุในแถลงการณ์ว่า “ณ เวลานี้ยังไม่ทราบต้นตอการติดเชื้อของผู้ป่วยรายนี้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการแพร่เชื้อในระดับชุมชนของโควิด-19 ซึ่งถือเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา”
ขณะที่ เดวิด ลูบาร์สกี ซีอีโอศูนย์การแพทย์เดวิสแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ยืนยันว่า เวลานี้ CDC กำลังตรวจสอบผู้ป่วยรายนี้ซึ่งรักษาตัวอยู่ในศูนย์ฯ
CNBC รายงานว่า ผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษาที่ศูนย์การแพทย์เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ หลังถูกเคลื่อนย้ายมาจากโรงพยาบาลอีกแห่งในแคลิฟอร์เนีย และตรวจหาเชื้อไวรัสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนจะพบผลตรวจเป็นบวกเมื่อวานนี้ (26 กุมภาพันธ์)
ผลยืนยันดังกล่าวทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 60 ราย โดยมีจำนวนหนึ่งที่เป็นพลเรือนที่ทางการอพยพมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน หรือเรือสำราญ Diamond Princess ที่จอดกักโรคอยู่ที่ท่าเรือเมืองโยโกฮามะของญี่ปุ่น
CDC ระบุว่า การแพร่ระบาดในชุมชนหมายถึงการแพร่เชื้อโดยที่ไม่รู้ต้นตอแน่ชัด ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยอาจติดไวรัสจากบางคนที่เดินทางกลับมาจากประเทศอื่น นั่นหมายความว่าอาจทำให้เกิดการระบาดในชุมชนโดยที่ติดตามป้องกันได้ยาก
ด้าน ดร.โซเนีย แอนเจลล์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป แคลิฟอร์เนียมีการเฝ้าติดตามและรับมืออยู่ตลอดนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดครั้งแรกในจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว นี่เป็นไวรัสใหม่ ถึงแม้เรายังต้องเรียนรู้เกี่ยวกับมันอยู่ แต่ก็มีหลายอย่างที่เรารู้แล้ว”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: