ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด (CDC) ของสหรัฐฯ ปรับข้อแนะนำเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่เป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 โดยชี้ว่าการแพร่เชื้อนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากการสูดละอองฝอยของน้ำมูกน้ำลายตามปกติ หรืออนุภาคของละอองที่ลอยในอากาศ รวมถึงการสัมผัสละอองฝอยที่มีการฉีดพ่น หรือใช้มือที่ปนเปื้อนเชื้อสัมผัสไปที่ปาก จมูก หรือตา
CDC ยังเน้นย้ำข้อแนะนำด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่ ว่าไวรัสที่ลอยแขวนในอากาศนั้นสามารถสูดเข้าไปในร่างกายได้ แม้ว่าบุคคลหนึ่งจะอยู่ห่างจากผู้ติดเชื้อเกินระยะ 6 ฟุต หรือประมาณ 1.8 เมตร ซึ่งเปลี่ยนจากข้อแนะนำเดิมของ CDC ที่ระบุว่ากรณีการติดเชื้อส่วนใหญ่นั้นเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิด และไม่มีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสทางอากาศ
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มีผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อหลายคนออกมาเตือนทั้ง CDC และองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ว่ากำลังมองข้ามงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าเชื้อไวรัสโคโรนานั้นแพร่กระจายผ่านอนุภาคขนาดเล็กที่ลอยแขวนในอากาศ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมาแสดงความยินดีที่ CDC ปรับเปลี่ยนข้อแนะนำจากการใช้ศัพท์คำว่าสัมผัสใกล้ชิดที่พวกเขามองว่าค่อนข้างคลุมเครือ
“CDC ได้พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดแล้วในตอนนี้ และพวกเขาได้กำจัดคำศัพท์ที่เป็นปัญหาเก่าๆ และใคร่ครวญว่าการแพร่กระจายของไวรัสนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร” ลินซีย์ มาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านละอองลอยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค กล่าว
ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังแสดงความกังวลที่ CDC ไม่เพิ่มน้ำหนักของข้อแนะนำเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาที่ลอยในอากาศ และมองว่าการค้นพบใหม่นี้ เป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับหน่วยงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของรัฐบาลกลางที่ควรกำหนดมาตรฐานใหม่ เพื่อให้บรรดานายจ้างปรับเปลี่ยนการป้องกันอันตรายจากการแพร่กระจายไวรัสทางอากาศที่อาจเกิดขึ้นในที่ทำงาน
“พวกเขาไม่ได้กล่าวมากนักเกี่ยวกับละอองลอย และมุ่งเน้นไปที่ละอองฝอยมากกว่า ข้อมูลใหม่นี้ มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสภาพแวดล้อมภายในอาคาร โดยเฉพาะในสถานที่ทำงาน” เดวิด ไมเคิล นักระบาดวิทยาของโรงเรียนสาธารณสุขจอร์จ วอชิงตัน และหัวหน้าคณะกรรมการบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติหรือ OSHA ในยุครัฐบาล บารัก โอบามา กล่าว พร้อมทั้งชี้ว่าอนุภาคที่เต็มไปด้วยไวรัสนั้น จะคงคุณสมบัติลอยในอากาศได้นานหลายชั่วโมง และจะสะสมอยู่ในห้องที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดี
โดนัลด์ มิลตัน นักวิทยาศาสตร์ด้านละอองลอยจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์เห็นด้วยกับข้อแนะนำในการปรับปรุงข้อแนะนำการป้องกันไวรัสในที่ทำงานดังกล่าว พร้อมแนะว่าควรมุ่งเน้นไปที่การใช้อุปกรณ์ป้องกันการสูดดมควันหรือฝุ่นละออง หรือ หน้ากากกรองอากาศ (Respirator) สำหรับผู้ที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้อื่นเป็นเวลานาน เนื่องจากหน้ากากอนามัยนั้นยังป้องกันไม่ได้มากพอ
อย่างไรก็ตาม ดร.มาร์ ยังชี้ถึงข้อแนะนำล่าสุดของ CDC ที่ระบุว่า “การสูดเชื้อไวรัสเมื่อผู้คนอยู่ห่างกันนั้นไม่ปกติ” โดยมองว่าข้อความดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและอาจเป็นอันตราย
“ถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการระบายอากาศไม่ดี เชื้อไวรัสจะสะสมในอากาศและทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นจะติดเชื้อ” เธอกล่าว
ภาพ: Alexi Rosenfeld / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
