×

‘We Not Me’ ความรักและความลับของ คูเปอร์ คัปป์ ฮีโร่ซูเปอร์โบวล์คนล่าสุด

14.02.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 mins. read
  • ตอนแรกคัปป์เป็นนักกีฬาที่ไม่ได้รับเสนอทุนจากมหาวิทยาลัยไหนตอนเรียนจบที่เดวิสไฮสคูลเลย แม้ว่าจะมีผลงานในการเล่นกีฬาโดดเด่นก็ตาม ก่อนที่จะมีสองมหาวิทยาลัยที่เสนอทุนให้
  • ความจริงแล้วคัปป์สืบสายเลือดนักอเมริกันฟุตบอลมาจากคุณปู่และคุณพ่อ เคร็ก คัปป์ เจ้าหนูคูเปอร์จึงมีความฝันที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่เด็ก
  • สิ่งที่คัปป์ทำคือการ ‘ถอดรหัส’ การเล่นของตัวเองอย่างละเอียดหลังการแข่งในแต่ละปี เพื่อปรับปรุงและพัฒนาตัวเอง
  • คัปป์ยอมรับว่า ชีวิตของเขาคงจะมาไม่ถึงจุดนี้หากไม่มีคนข้างๆ ที่คอยสนับสนุน ผลักดัน และเป็นแรงบันดาลใจของกันและกันอย่างแอนนา

เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 นาที

 

สถานการณ์ของแอลเอ แรมส์ ในศึกซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 56 เริ่มกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคู่แข่งอย่างซินซินเนติ เบงกอลส์ มาเริ่มพลิกสถานการณ์ได้หลังจบการแสดงโชว์ช่วงพักครึ่งเวลาที่ปีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน Halftime Show ที่มหัศจรรย์ที่สุด เมื่อพลิกจากตามหลัง 10-13 กลับมานำ 20-13 ก่อนที่แรมส์จะเตะฟิลด์โกลไล่ตามมาเป็น 16-20 

 

ด้วยเวลาที่เหลืออยู่ แรมส์ยังมีโอกาสที่จะพลิกเกมกลับมาเป็นผู้ชนะได้ เพียงแต่ปัญหาคือ นับตั้งแต่ควอเตอร์ที่ 3 เป็นต้นมา นอกจากฟิลด์โกลลูกนั้นแล้ว พวกเขาก็ยังหาทางเจาะเกมรับของเบงกอลส์เข้าไปไม่ได้

 

ลูกที่ควอเตอร์แบ็ก แมทธิว สแตฟฟอร์ด ขว้างให้ คูเปอร์ คัปป์ ทำทัชดาวน์ได้ก็ถูกปฏิเสธเพราะปีกนอก (WR) ดันไปดึงเสื้อผู้เล่นของเบงกอลส์เข้า ทำให้มีธงจากผู้ตัดสินและต้องกลับมาเริ่มต้นกันใหม่

 

ถึงตรงนี้มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากผู้เล่นของแรมส์จะเริ่มถอดใจ เพราะทำขนาดนี้ก็ยังไม่ได้ผล

 

แต่ที่สุดแล้วพวกเขาก็ยังไม่ถอดใจ พยายามต่อไปในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนที่สแตฟฟอร์ด ผู้ที่เอาชนะ ทอม เบรดี ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล มาได้ในรอบดิวิชันนัลราวด์ ก็สามารถขว้างบอลไปถึงมือของคัปป์อีกครั้ง

 

คราวนี้คัปป์ ซึ่งเล่นได้อย่างมหัศจรรย์ในควอเตอร์สุดท้าย จนเรียกได้ว่าแทบจะแบกอยู่คนเดียว รับได้และไม่มีธง! นี่คือทัชดาวน์ครั้งที่ 2 ของเขาในซูเปอร์โบวล์ และแน่นอนว่านี่คือการพลิกเกมครั้งสำคัญที่ช่วยให้สุดท้ายแล้วแรมส์เอาชนะเบงกอลส์ได้ 23-20 ได้ซูเปอร์โบวล์สมัยที่ 2 ของทีมไปครอง หลังจากที่ได้ครั้งแรกในปี 1999

 

คัปป์ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณภาพในซูเปอร์โบวล์ครั้งนี้ด้วย เป็นการปิดฉากขวบปีที่สุดเหลือเชื่อ โดยก่อนหน้านี้เขาสามารถทำ Tripple Crown (จำนวนครั้งที่รับลูกได้, ระยะวิ่งในการรับบอล และทัชดาวน์) ได้เป็นคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ ได้รางวัลผู้เล่นทีมรุกยอดเยี่ยมแห่งปี (Offensive Player of the Year)

 

ก่อนหน้านี้มีเพียงแค่ เจอร์รี ไรซ์ ปีกในตำนานเพียงคนเดียว ที่เคยกวาดทุกรางวัลมาได้เท่านี้ แต่คัปป์พิเศษกว่าคือ เขาสามารถกวาดรางวัลทั้งหมดนี้มาครองได้ภายในฤดูกาลเดียว

 

และเมื่อมองย้อนกลับไปในเส้นทางที่ผ่านมาของผู้เล่นวัย 28 ปีคนนี้แล้วก็ยิ่งน่าเหลือเชื่อเข้าไปใหญ่

 

เพราะจุดเริ่มต้นของเขานั้นแทบจะติดลบ

 

 

 

คนที่ทุกคนมองข้าม แต่ไม่เคยยอมแพ้ใคร

ที่บอกว่าจุดเริ่มต้นของคัปป์ติดลบนั้น เพราะในตอนแรกเขาเป็นนักกีฬาที่ไม่ได้รับเสนอทุนจากมหาวิทยาลัยไหนตอนเรียนจบที่เดวิสไฮสคูลเลย แม้ว่าจะมีผลงานในการเล่นกีฬาโดดเด่นก็ตาม

 

จนกระทั่งเขาได้รับเสนอทุนจากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นวอชิงตัน และไอดาโฮสเตท ซึ่งสุดท้ายคัปป์เลือกจะเข้าที่แรก โดยตั้งใจพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริง และพิสูจน์ให้ทุกคนที่มองข้ามเขาได้เห็นว่าพวกเขาคิดผิดแล้ว

 

ความจริงแล้วเขาสืบสายเลือดนักอเมริกันฟุตบอลมาจากคุณปู่ เจค คัปป์ ซึ่งเคยเล่นในโปรโบวล์กับทีมนิวออร์ลีนส์ เซนต์ส และคุณพ่อ เคร็ก คัปป์ ควอเตอร์แบ็กที่เคยถูกดราฟต์โดยนิวยอร์ก ไจแอนต์ส ในปี 1990 เช่นนั้นเจ้าหนูคูเปอร์จึงมีความฝันที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่เด็ก

 

“เขาเป็นเด็กที่ผอมกะหร่อง” คาริน คัปป์ คุณแม่ของคูเปอร์ เล่าเรื่องเก่าไปพลางหัวเราะไป “เขาเป็นคนที่ตัวเล็กกว่าใครมาก แต่ในใจของเขาแล้วเขาเชื่อว่าเขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนาม สิ่งที่เขาคิดไม่ได้มาจากความเย่อหยิ่ง แต่ในใจของเขาแล้วเขาคือคนที่เล่นได้ดีที่สุดจริงๆ”

 

ความฝันของคูเปอร์น้อยเริ่มตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เคร็กเล่าต่อ “ความฝันของเขาคือการเล่นให้ USC (University of South California) หรือสแตนฟอร์ด แต่พอเรียนถึงเกรด 8 ความคิดของเขาก็เริ่มโตขึ้น เขาอยากจะเป็นนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพและอยากติดหอเกียรติยศ ด้วยจิตใจและความคิดแบบนี้เองคือสิ่งที่ทำให้เขาพัฒนาในช่วงอายุเท่านั้น”

 

แต่อย่างที่บอก ชีวิตของ คูเปอร์ คัปป์ ไม่ง่ายเลย จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นวอชิงตันในปี 2012 เขาถูกดราฟต์ในรอบที่ 3 ของปี 2017 (ลำดับที่ 69 ของทั้งหมด) และชีวิต Rookie ปีแรกของเขาไม่ไหวเอาเสียเลย เพียงแต่แทนที่เขาจะท้อแท้หรืออับอาย (ก็อายแหละเมื่อมองย้อนกลับมา)

 

สิ่งที่คัปป์ทำคือ การ ‘ถอดรหัส’ การเล่นของตัวเองอย่างละเอียดหลังการแข่งในแต่ละปี

 

“ผมจะดูย้อนกลับไปว่าผมมองเห็นอะไรในตัวเองบ้าง ผมอยากจะพัฒนาในสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จำเป็นจะต้องทำให้ดีขึ้นก่อน ผมคิดแบบนี้และทำแบบนี้ทุกปี เพื่อที่ผมจะได้เล่นได้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก และไม่พอใจง่ายๆ กับตัวเองในเวลานี้ จะไม่คิดเด็ดขาดว่าผมมาถึงจุดที่พอใจได้แล้ว นี่คือสิ่งที่ผมคิดในใจ”

 

อย่างไรก็ดี ที่บอกปีแรกแย่ของคัปป์ ความจริงแล้วก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะเขารับบอลได้ 62 ครั้ง ทำระยะ 869 หลา และทัชดาวน์ 5 ครั้ง ซึ่งความจริงแล้วน่าจะบอกได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นอายุน้อยในฤดูกาล 2017

 

เมื่อไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองทำได้ ทำให้คัปป์ค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ด้าน ทุกอย่างเกิดจากการทำงานอย่างหนัก สะสมวิชามาทีละนิด จนสุดท้ายเขาก็กลายเป็นหนึ่งในรีซีฟเวอร์ที่เก่งที่สุด

 

 

 

‘We Not Me’ ชีวิตนี้มีแต่คำว่าเรา

อย่างไรก็ดี คัปป์ยอมรับว่าชีวิตของเขาจะไม่มีวันมาถึงจุดนี้ได้หากปราศจาก ‘เธอ’

 

แอนนา คัปป์ หรือ แอนนา ครอสคีย์ คือรักแท้ของคูเปอร์มาตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูล ที่เขายังเล่าการพบกันครั้งแรกด้วยความภาคภูมิใจเสมอ

 

“ผมรู้ว่าเธอคือคนที่ผมอยากจะแต่งงานด้วยตั้งแต่วันที่เราได้พบกันครั้งแรกในไฮสคูล” MVP ซูเปอร์โบวล์เคยเล่าความหลัง “ผมบอกกับแม่ตั้งแต่วันที่พบกับเธอว่า แม่…ผมจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้”

 

เมื่อกามเทพแผลงศรทั้งสองจึงได้เริ่มคบหาดูใจ ออกเดตด้วยกัน เพียงแต่ Puppy Love ของเด็กทั้งสองไม่ได้ถึงกับสวยงามนัก เพราะแอนนา ซึ่งความจริงก็เป็นนักสัตตกรีฑาในเวลานั้นย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยอีกที่ ระยะห่างเริ่มกว้างจนใจสั่น

 

เมื่อรู้ตัวว่ารักทางไกลยากเกินใจจะอดทน สิ่งที่แอนนาทำคือการเสียสละอนาคตของตัวเองเพื่อย้ายมาเรียนที่อีสเทิร์นวอชิงตันที่เดียวกับคูเปอร์ แม้ว่าจะย้ายหน่วยกิจมาไม่ได้และหมายถึงการที่เธอจะเสียเวลา 2 ปีในมหาวิทยาลัยไปเปล่าๆ ก็ตาม

 

รู้ทั้งรู้ว่าต้องลำบาก แต่หัวใจมันอยากจะเลือกหนทางนี้

 

แอนนาต้องทำอะไรบ้าง? ในด้านชีวิตการเรียนเธอต้องพยายามลงทะเบียนเรียนหนักเป็น 2 เท่า เพียงเพื่อให้จบทันพร้อมกับคัปป์ ส่วนอีกด้านของชีวิตเพื่อให้คนรักไม่ต้องเป็นกังวลกับอะไรเลย โดยเฉพาะเรื่องค่ากิน ค่าอยู่ เธอจึงตัดสินใจทำงานประจำไปด้วยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

 

“ฉันดูแลเรื่องการเงินของเรามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย” แอนนาเล่าไปหัวเราะไป เพราะแทบไม่อยากเชื่อว่าเธอผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างไร “ฉันทำงานแบบฟูลไทม์เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกังวลอะไร เขาจะได้สามารถตั้งสมาธิกับการเล่นได้”

 

ออสติน แวกเนอร์ เพื่อนสนิทของคัปป์ตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูลเป็นอีกคนที่บอกเลยว่า ถ้าไม่มีแอนนา แอลเอ แรมส์ อาจจะไม่ได้เจอฮีโร่ที่ชื่อคูเปอร์ “แอนนาเป็นเหมือนภูผาหิน ผมไม่คิดว่าคูเปอร์จะมีวันนี้ถ้าปราศจากสิ่งที่แอนนาทำให้เขา เธอคือคนที่คาดหวังสิ่งต่างๆ จากคนรอบกายสูงมาก และนั่นคือสิ่งที่ทำให้คูเปอร์ทำงานอย่างหนักมาก”

 

ขณะที่ แซค วิมเบอร์ลี เพื่อนร่วมทีมเก่าของคัปป์ในทีมอีสเทิร์นวอชิงตัน บอกว่า คูปกับแอนนา…พวกเขาคือทีม

 

“ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร พวกเขาจะทำด้วยกันเสมอ”

 

ย้อนกลับไปอีกนิดจะพบเรื่องน่าตกใจว่าทั้งสองได้ตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกันตั้งแต่อายุน้อย คูเปอร์อายุแค่ 22 ส่วนแอนนาอายุ 21 ปี ซึ่งในความรู้สึกของคนภายนอกอาจจะมองว่ามันเร็วเกินไปและน่าเสียดายหากจะไม่ได้ใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว แต่สำหรับทั้งคู่แล้วพวกเขาคิดตรงกันข้าม

 

“คนชอบถามว่าทำไมพวกเราถึงแต่งงานกันเร็วนัก?” แอนนาบอก “พวกเราไม่คิดว่าเร็วนะ เราคิดตรงกันข้าม เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่เราได้พบคนที่เรารักและยินดีที่จะใช้ชีวิตร่วมด้วยเร็วแบบนี้”

 

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทั้งสองไม่เคยอยู่ห่างกันเลย ไม่ว่าจะยามสุขหรือยามทุกข์ จะเจ็บหรือจะป่วย จะดูหนังหรือฟังเพลง คูเปอร์และแอนนาอยู่ด้วยกันเสมอ พร้อมด้วยแก้วตาดวงใจอีก 2 คนในตอนนี้

 

“สำหรับผมไม่เคยสงสัยเลยว่าผมจะไม่มีวันมาถึงจุดที่ผมอยู่ตรงนี้ได้ถ้าหากไม่มีแอนนาที่คอยช่วยสนับสนุน” คัปป์กล่าว “ผมเชื่อจากใจจริงว่าผมคงจะมาไม่ถึงตรงนี้ ผมคงไม่ได้เล่นใน NFL ถ้าไม่ใช่เพราะผมอยากจะทำเพื่อเธอ และสิ่งที่เธอทำทุกอย่างนั้นคือแรงบันดาลใจและเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ผมมาถึงตรงนี้

 

นี่คือ ‘We Not Me’ ของ คูเปอร์ คัปป์

 

ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่เธอ แต่คือเรา

ป.ล. ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านมีความสุขในวันแห่งความรัก 2022 ครับ 🙂

 

อ้างอิง:

FYI
  • ความจริง คูเปอร์ คัปป์ น่าจะได้โอกาสชิงซูเปอร์โบวล์ครั้งแรกตั้งแต่ 3 ปีก่อน แต่เกิดบาดเจ็บรุนแรงเอ็นหัวเข่าขาด (ACL) ทำให้พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย และแรมส์ก็พ่ายต่อนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ด้วยในปีนั้น
  • ในสมัยเรียนคัปป์เป็นคนที่กินจุมาก (ก.ไก่ ล้านตัว) มีเท่าไรก็ยัดหมด แถมไม่อิ่มด้วย บ่อยครั้งที่ชอบไปนอนค้างบ้านเพื่อนเพื่อที่จะให้แม่เพื่อนทำอาหารเช้าขนาด 4 คนหม่ำ (และแน่นอนไม่อิ่ม) จนเริ่มละอายใจ แต่เมื่อเป็นนักกีฬาอาชีพ ทำให้เขาปรับเปลี่ยนวิธีการกินใหม่ เลือกกินมากขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งมาก
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X