วันนี้ (2 กันยายน) ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการตั้งข้อสังเกตการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พ้นวาระแล้ว แต่ยังทำหน้าที่เป็นองค์คณะในการพิจารณาคดีของ แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีผลกระทบต่อคดีหรือไม่ว่า เอกสารออกมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 กันยายน) ซึ่งออกมาอย่างไรตนก็ไม่ทราบ
แต่เท่าที่ทราบ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมกันลงรายชื่อ ทำคำร้องเพื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความวินิจฉัยความชอบตามรัฐธรรมนูญ โดยจะมีการอ้างเหตุผล 2 ข้อ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ได้แก่
- ทันทีที่มีพระบรมราชโองการในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ตุลาการคนเก่าก็น่าจะพ้นไปในวันดังกล่าว การที่ตุลาการคนใหม่ยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ใช่ประเด็น แต่เมื่อมีพระบรมราชโองการ คนเก่าก็ไม่ควรทำหน้าที่ต่อไป เพราะต้องถือว่าคนใหม่เป็นตุลาการแล้ว ส่วนจะทำหน้าที่ได้หรือไม่เป็นคนละเรื่อง
- มีการตั้งประเด็นว่าพระบรมราชโองการมีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 แต่ทำไมผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จึงส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญล่าช้าหลายวัน แทนที่จะส่งในวันเดียวกัน แต่ล่าช้าไป 1-2 วัน มีเจตนาให้ตุลาการคนเก่าทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ แล้วคนรับสนองกับโจทก์กลายเป็นคนเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นผลทำให้คดีนี้เป็นโมฆะเลยหรือไม่ ชูศักดิ์กล่าวว่า อย่าไปพูดแบบนั้น แต่ที่ตนพูดหมายความว่า ให้ศาลไปวินิจฉัยว่าเห็นชอบหรือไม่ที่มีการทำแบบนี้ ส่วนจะโมฆะหรือไม่ เราไม่พูด ให้เขาไปพูดกัน
เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีผลกับมติคำวินิจฉัยที่ออกมาใช่หรือไม่ ชูศักดิ์กล่าวว่า ปัญหาคือ หากเขาทำหน้าที่ไม่ได้ จำนวนเสียงก็จะเป็น 5 ต่อ 3 องค์ประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีเพียง 8 คน ซึ่งเป็นประเด็นที่ สส. ตั้งไว้ และไม่ทราบว่าเรื่องนี้ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่ขอก้าวล่วงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
