×

เคาะที่มา กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ ผู้สมัครต้องมีประชาชนรับรอง 100 คน พร้อมเขียนวิสัยทัศน์ให้สังคมตรวจสอบ

โดย THE STANDARD TEAM
14.11.2025
  • LOADING...
เคาะที่มา กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ ผู้สมัครต้องมีประชาชนรับรอง 100 คน พร้อมเขียนวิสัยทัศน์ให้สังคมตรวจสอบ

วันนี้ (14 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา นรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภา แถลงถึงความคืบหน้าของการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า ที่ประชุมกรรมาธิการได้เห็นชอบต่อการกำหนดที่มาของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน มาจากการสมัครของประชาชน ผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

 

โดยผู้สมัครนั้นต้องมีประชาชนรับรองอย่างน้อย 100 รายชื่อ พร้อมกันนั้นต้องมีเอกสารแสดงวิสัยทัศน์และอุดมการณ์ความยาว 1 หน้ากระดาษ ทั้งนี้ มีข้อกำหนดว่าเมื่อรับสมัครแล้วจะนำข้อมูลของผู้สมัครเผยแพร่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมตรวจสอบประวัติและอุดมการณ์ จากนั้นให้ส่งรายชื่อให้รัฐสภาคัดเลือก

 

นรเศรษฐ์กล่าวอีกว่า สำหรับกระบวนการเลือกโดยรัฐสภานั้น มติของกรรมาธิการฯ แก้รัฐธรรมนูญฯ กำหนดให้ใช้สูตร 20 หยิบ 1 คือ ให้สมาชิกรัฐสภารวมกลุ่ม กลุ่มละ 20 คน เพื่อเสนอชื่อกรรมธิการ 1 คน แต่หากไม่สามารถหาจำนวนกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้ครบ 35 คน จะให้สมาชิกรัฐสภาจำนวน 10 คน เสนอบัญชีผู้จะได้รับการเลือกเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นจำนวน 2 เท่าของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่ขาด

 

จากนั้นให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมาก เกิน 2 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ ได้กำหนดให้ รัฐสภาเเลือกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน แต่หากครบเวลาแล้วยังได้ไม่ครบ 35 คน แต่ได้เป็นจำนวน 90% หรือ 33 คน ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้

 

ส่วนการกำหนดสูตร 20 หยิบ 1 ได้หารือถึงวิธีการรวมกลุ่มหรือไม่ว่าจะรวมกลุ่มอย่างอิสระ หรือมีเงื่อนไข นรเศรษฐ์กล่าวว่า ในหลักการรวมกันของสมาชิกรัฐสภาที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ซึ่งกรรมาธิการฯ เห็นว่ามีข้อดีที่จะทำให้เกิดความหลากหลายของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

 

ส่วนกรรมาธิการฯ กังวลหรือไม่ว่า กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ อาจถูกล็อกโควตาโดยพรรคการเมืองที่มี สส. จำนวนมากในสภาฯ พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส. สมุทรปราการ พรรคประชาชน ฐานะโฆษกกรรมาธิการฯ กล่าวว่า การเลือกนั้นเป็นหลักการที่ตรงไปตรงมา เหมือนกับการเลือกตัวแทนในสัดส่วนของกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ประชาชนจะเห็นชัดเจนว่าผู้สมัคร สส. ที่เลือกนั้น จะเป็นตัวแทนประชาชน นอกจากได้เลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังได้เลือกสมาชิกที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

 

เมื่อถามย้ำว่า การรวมกลุ่มของสมาชิกรัฐสภา 20 คนโดยอิสระ อาจทำให้เกิดการจัดตั้งได้ เช่น รอบหน้าพรรคประชาชนได้รับเลือกตั้ง 200 คน จะได้สิทธิเลือกกรรมาธิการยกร่าง 10 คน พนิดากล่าวว่า “แปลว่าเป็นการสะท้อนเสียงของประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ทดแทนที่ประชาชนไม่สามารถเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองได้”

 

ส่วนความเป็นห่วงว่า ข้อเสนอที่พิจารณาเมื่อส่งเข้ารัฐสภาอาจถูกติงว่าหนีไม่พ้นการครอบงำของฝ่ายการเมือง พนิดากล่าวว่า การเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่มีข้อจำกัดจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถตัดขาดจากรัฐสภาได้ ต้องใช้สมาชิกรัฐสภาเลือก แต่เลือกอย่างไรเพื่อสะท้อนความต้องการของประชาชนที่สุด จึงเป็นสมการนี้

 

พนิดากล่าวต่อไปว่า ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอพรรคภูมิใจไทยให้ใช้เสียงข้างมาก ดังนั้นเท่ากับว่าฝ่ายที่ครองเสียงข้างมากจะเป็นคนกำหนดหน้าตากรรมาธิกานร่างทั้งหมด ทำให้ขาดหลักประกันเสียงข้างน้อยของรัฐสภาเป็นผู้ร่าง แต่การกำหนดสูตร 20 หยิบ 1 ทำให้ สส. และ สว. มีเอกสิทธิรวมกลุ่มกับใครก็ได้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เป้าหมายเดียวกันที่จะส่งคนเป็นตัวแทนร่างรัฐธรรมนูญ คือเป็นหลักประกัน ทุกคนมีตัวแทนให้รัฐสภารับรอง

 

ทั้งนี้ นรเศรษฐ์กล่าวเสริมว่า กรณีที่สอบถามว่าหากพรรคประชาชนได้รับเลือกตั้งมา 200 คน จากสูตร 20 หยิบ 1 จะได้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ เต็มที่ 10 คน จาก 35 คน ซึ่งไม่สามารถเข้ามาครอบงำ หรือเป็นเสียงส่วนใหญ่ในกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ จึงรับประกันว่ากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญมีความหลากหลายและกระจายในสัดส่วน อุดมการณ์มาจากตัวแทนประชาชน หลังจากยุบสภาและหาเสียง เชื่อว่าพรรคการเมืองจะสื่อสารกับประชาชนว่าพรรคมีแนวทางอยย่างไร เรื่องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทางประชาชนใช้หลักการเลือก สส.เขต และบัญชีรายชื่อ เพื่อเป็นการส่งผ่านเจตนารมณ์ของตนเองเพื่อให้ สส. เลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตาม ในแนวทางที่กรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญหารือร่วมกันนั้น จะทำให้ได้รับเสียงสนับสนุนในรัฐสภาในการพิจารณาวาระ 2 และวาระ 3 ได้

 

ขณะที่ เอกพร รักความสุข สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการฯ กล่าวว่าสำหรับการพิจารณากำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอของ พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการฯ กำหนดให้ผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญถูกจำกัดการเข้าสู่ตำแหน่งการเมือง 3 ปี แต่มีข้อเสนอจากกรรมาธิการฯ อื่นว่า ควรให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตลอดชีวิต เพื่อให้เกิดความสบายใจว่า คนทำรัฐธรรมนูญนั้นไม่มีผลประโยชน์ใด

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยืนยันว่าการทำงานในกรรมาธิการฯ มีความเห็นพ้อง ไม่มีความขัดแย้งระหว่างกรรมาธิการฯ ที่มาจากต่างพรรคการเมือง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising