วันนี้ (18 มกราคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังคงปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) 2024 ที่เมืองดาวอส สหพันธรัฐสวิส แต่เป็นห่วงเหตุโรงงานพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรีเมื่อวานนี้ และเสียใจที่เกิดความสูญเสียถึง 23 ราย ทั้งหมดที่อยู่ภายในโรงงาน
โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม สำรวจการจัดตั้งโรงงาน ระบบความปลอดภัย, กระทรวงสาธารณสุข ดูแลประชาชนในพื้นที่โดยรอบหากได้รับผลกระทบจากวัตถุเคมีผลิตพลุที่ระเบิด, กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ดูสภาพอากาศที่กระทบ และสภาพแวดล้อมต่างๆ รวมถึงกระทรวงแรงงาน ที่เยียวยาญาติผู้เสียชีวิตด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ตรวจสอบโรงงานประเภทที่มีวัตถุอันตรายทั่วประเทศ ให้มีความมั่นใจว่าจะต้องไม่มีเหตุการณ์เกิดซ้ำซ้อนในทุกกรณี
เร่งพิสูจน์เอกลักษณ์ เหยื่อโรงงานพลุสุพรรณบุรีภายใน 1-2 วันนี้
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ภายในวัดโรงช้าง โดยเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ขณะนี้ได้ให้น้ำหนักไปที่การเร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต ซึ่งในจำนวน 23 ศพ ตอนนี้พิสูจน์เสร็จแล้ว 10 ศพ ญาติยืนยันรับศพแล้ว 5 ศพ
โดยเบื้องต้นได้เก็บดีเอ็นเอของญาติทั้ง 23 ศพ เพื่อนำมาเทียบเคียงว่าเป็นญาติของใคร และยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 23 ศพ และไม่มีผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้ ผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมดเป็นคนที่อยู่ในโรงงานทั้งสิ้น และได้เร่งรัดให้นิติเวชพิสูจน์เอกลักษณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ โดยการส่งมอบศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจ จะต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อน โดยสามารถพิสูจน์จากเอกลักษณ์บุคคล เช่น รอยสัก เสื้อผ้าที่สวมใส่ เครื่องประดับ ลายนิ้วมือ ฟัน และผลเปรียบเทียบดีเอ็นเอของญาติด้วยเพื่อความถูกต้อง เนื่องจากบางศพมีลักษณะเป็นชิ้นส่วนที่หลุดออกจากร่างกาย
ส่วนสาเหตุได้มีการเรียกพยานแวดล้อมมาสอบปากคำ แต่เนื่องจากว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์เสียชีวิตทั้งหมด จึงมีการเรียกคนที่เคยทำงานที่โรงงานแห่งนั้น รวมถึงคนที่หยุดงานในวันที่เกิดเหตุมาให้ปากคำ โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิต มีขั้นตอนไหนที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระเบิดได้ เบื้องต้นสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเกือบหมดแล้วทั้งญาติและพยานแวดล้อม โดยผลการสอบปากคำก็จะนำไปประกอบผลพิสูจน์หลักฐานและผลนิติเวช เพื่อหาสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้