เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (15 พฤศจิกายน) ADVANC ได้รายงาน SET ว่าบริษัทจะเดินหน้าเข้าซื้อ TTTBB และ JASIF และคงสัญญาเช่าที่ JASIF ไว้เหมือนเดิม โดย ADVANC ได้ให้เหตุผลว่า การลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากฐานลูกค้าที่ระดับ 2 ล้านราย เป็นประมาณ 4.4 ล้านราย และมีโครงข่ายไฟเบอร์ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่กว้างขวางมากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด
นอกจากนี้ยังจะเปิดโอกาสให้ ADVANC นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายแก่ลูกค้าของบริษัท และให้บริการแก่ลูกค้าของ TTTBB บริษัทคาดว่าดีลนี้จะแล้วเสร็จใน 1Q66
ADVANC ยังระบุด้วยว่า บริษัทจะพิจารณาต่ออายุสัญญาเช่าซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมกราคม 2575 หากมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าเช่าอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจะพิจารณาเทียบกับทางเลือกอื่นๆ รวมถึงการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทเอง เพื่อให้มั่นใจว่าต้นทุนการดำเนินงานอยู่ในระดับที่เหมาะสมในระยะยาว
ซึ่ง InnovestX Research มองว่าเป็นการส่งสัญญาณจาก ADVANC ว่าอัตราค่าเช่าปัจจุบันสำหรับ JASIF นั้นสูงเกินไป
กระทบอย่างไร:
วันนี้ SET Index ปรับลดลง 0.58%DoD อยู่ที่ระดับ 1,619.98 จุด ขณะที่
ราคาหุ้น ADVANC ไม่เปลี่ยนแปลง DoD อยู่ที่ระดับ 187.50 บาท
ราคาหุ้น DTAC ไม่เปลี่ยนแปลง DoD อยู่ที่ระดับ 43.75 บาท
ราคาหุ้น TRUE ปรับลดลง 0.41%DoD อยู่ที่ระดับ 4.86 บาท
ราคาหุ้น JASIF ปรับเพิ่มขึ้น 3.59%DoD สู่ระดับ 8.65 บาท
ความเห็นเกี่ยวกับ ADVANC และ JASIF:
ADVANC: ในช่วงสั้นจะเป็นลบเล็กน้อยต่อ ADVANC โดยจากการคำนวณดีลนี้จะส่งผลกระทบด้านลบราว 2.8% ต่อกำไรสุทธิปี 2566 ในสมมติฐานที่อิงกับ:
- การใช้แหล่งเงินทุนจากหนี้สิน 100% ด้วยต้นทุนทางการเงิน 3.5%
- เงินปันผลรับจาก JASIF มีจำนวน 1.5 พันล้านบาทในปี 2566
- คาดว่า JAS จะมีขาดทุนสุทธิ 1.1 พันล้านบาทในปี 2566
- ไม่มี Synergy Value สำหรับราคาเข้าซื้อนั้น InnovestX Research มองว่า ราคาเข้าซื้อ TTTBB เป็นราคาที่เหมาะสม (1.95 หมื่นล้านบาท) เนื่องจากใกล้เคียงกับ Market Cap ในปัจจุบันของ JAS ซึ่งรายได้ 92% ได้มาจาก TTTBB สำหรับ JASIF แม้ราคาเข้าซื้อที่ 1.29 หมื่นล้านบาท หรือ 8.5 บาทต่อหน่วย สูงกว่าราคาเหมาะสมของ JASIF ที่ปรับใหม่เป็น 8.0 บาทต่อหน่วย แต่ยังต่ำกว่าค่า Premium ของการเข้าซื้อในช่วง 20-30% โดยอิงกับดีล M&A ทั่วโลกในกลุ่มนี้
ถ้าราคาหุ้น ADVANC ลดลงมากกว่า 2.8% เชื่อว่าตลาดน่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองมากเกินไปต่อพัฒนาการครั้งนี้
JASIF: เมื่ออิงกับคำแถลงจาก ADVANC มีโอกาสสูงว่าหาก ADVANC ตัดสินใจต่อสัญญา อัตราค่าเช่าใหม่จะอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น InnovestX Research จึงปรับราคาเป้าหมายของ JASIF ลดลงสู่ 8.0 บาท (จาก 10.5 บาท) หลังจากใช้สมมติฐานว่าอัตราค่าเช่าใหม่หลังเดือนมกราคม 2575 จะอยู่ที่ 100 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน เทียบกับสมมติฐานเดิมที่ 433 บาท และอัตราค่าเช่าปัจจุบันที่ 509 บาท
อัตราค่าเช่าใหม่นี้น่าจะเป็นอัตราที่ ADVANC มองว่าสมเหตุสมผลที่จะต่อสัญญาแทนที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทเองเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า TTTBB ซึ่งคาดว่าต้นทุนจะอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ปฏิกิริยาการตอบสนองของราคาหน่วยลงทุนในระยะสั้นน่าจะเป็นบวก แต่ InnovestX Research แนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไร
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research คาดการณ์ถึงผลกระทบด้านลบในระยะสั้นต่อกำไรของ ADVANC แต่จะมีผลกระทบจำกัดต่อราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ดังนั้นจึงคงราคาเป้าหมายของ ADVANC ไว้ที่ 225 บาทต่อหุ้น และคงเรตติ้ง Outperform
ในขณะที่ปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ของ JASIF ลดลงสู่ 8.0 บาทต่อหน่วย (จาก 10.5 บาทต่อหุ้น) เพื่อสะท้อนสมมติฐานอัตราค่าเช่าใหม่หลังสัญญาปัจจุบันหมดอายุ แต่ยังคงเรตติ้ง Neutral ราคาเป้าหมายของ JASIF จะอยู่ที่ 7.0 บาทต่อหน่วย หากไม่มีการต่อสัญญา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- 9 หุ้น จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 5% ตลอด 5 ปี แถมราคาตั้งแต่ต้นปียังบวก
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65