ยังจำเรื่องโครงการ Common Goal ที่เคยเล่าให้ฟังเมื่อปีกลายได้ไหมครับ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Common Goal ได้ฉลองครบรอบ 1 ปีกันไปเรียบร้อย หลังจากที่โครงการดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2017 จากแนวคิดที่เหมือนธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาของ ฮวน มาตา เพลย์เมกเกอร์ทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการทำบางสิ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เล็กน้อยก็ตาม
อะไรคือสิ่งที่เขาจะทำได้โดยไม่ลำบาก และอะไรที่เขาจะชักชวนเพื่อนร่วมวงการฟุตบอล ในความหมายถึงทั้งนักฟุตบอล สื่อมวลชน หรือแม้แต่แฟนบอลเองก็ตาม สามารถทำได้โดยไม่ลำบากทั้งกายและใจ
สิ่งที่เขาคิดคือการขอส่วนแบ่งรายได้เพียง 1% ที่ได้รับในแต่ละเดือนเพื่อมอบให้แก่ Common Goal องค์กรการกุศลที่จะเป็นคนกลางให้การช่วยเหลือแก่องค์กรการกุศลที่ทำหน้าที่ในการดูแลสังคมและยังต้องการการสนับสนุนทางการเงินอีกมากมาย
มาตาเชื่อว่านี่จะเป็นประตูที่ทุกคนได้ทำร่วมกัน โดยเป้าหมายไม่ใช่การชนะในสนามแข่งขัน แต่เป็นการชนะในสนามชีวิต เพื่อช่วยให้ชีวิตของใครสักคนในที่ที่ห่างไกลนั้นดีขึ้นไม่มากก็น้อย
1% ของรายได้มาตาอาจจะไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก แต่หากนักฟุตบอลทั้งโลกร่วมมือกัน พลังนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างแน่นอน
ว่าแต่ผ่านมาถึงวันนี้กับ 1 ปีของ Common Goal ผลงานของพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง
มาลองดูกันครับ 🙂
ประตูแรกที่แลกด้วยความเชื่อ
จากจุดเริ่มต้นของมาตาซึ่งคิดถึงการทำเพื่อผู้อื่นเมื่อ 1 ปีที่แล้วหลังเขาสูญเสียคุณปู่ไป วันนี้เขาไม่ได้ต้องหาโอกาสทำประตูเพียงลำพังในเกมนี้
ในทางตรงกันข้าม มาตาได้รับการสนับสนุนอย่างดีพอสมควรจากเพื่อนในวงการที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ด้วยความเต็มใจ
จำนวนล่าสุดคือ 94 คนที่มีตั้งแต่เหล่าสตาร์อย่าง มัตส์ ฮุมเมิลส์, จอร์โจ คิเอลลินี, แคสเปอร์ ชไมเคิล, ชินจิ คากาวะ ไปจนถึงนักฟุตบอลสาวที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งอย่าง อเล็กซ์ มอร์แกน (ซึ่งความจริงรายได้ของเธอไม่ได้มากมายอะไรเลยเมื่อเทียบกับสตาร์นักเตะชาย) ไปจนถึง ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ โค้ชดาวเด่นของวงการฟุตบอลเยอรมนี
และที่น่าภูมิใจที่สุดคือการที่ อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป หรือยูฟ่า ขอร่วมในโครงการนี้ด้วย
ล่าสุดสโมสรฟุตบอลนอร์ดสเยลลันด์เป็นสโมสรฟุตบอลแห่งแรกที่ขอมอบรายได้จากการจำหน่ายค่าบัตรผ่านประตูทุกนัดเป็นจำนวน 1% ให้แก่ Common Goal โดยมอบส่วนแบ่งรายได้ให้เป็นเกมแรกในนัดที่พบกับคลิฟตันวิลล์ สโมสรจากไอร์แลนด์เหนือ ในเกมยูโรปา ลีก รอบคัดเลือก และในเกมที่พบกับปาร์ติซาน เบลเกรด ในสัปดาห์นี้ และจะมอบส่วนแบ่งรายได้เช่นนี้ตลอดไปทุกนัดที่พวกเขาลงสนามในบ้าน
นอกจากนี้นักฟุตบอลทุกคนของนอร์ดสเยลลันด์ตั้งแต่ทีมรุ่นอายุ U-12 ไปจนถึงทีมชุดใหญ่ทุกคนกำลังพิจารณาที่จะร่วมโครงการนี้ด้วยกันทั้งสโมสร
ทอม เวอร์นอน ประธานสโมสร กล่าวในเรื่องนี้ว่า “เราเชื่อว่ามันเป็นความรับผิดชอบของสโมสรในการที่จะสอนนักฟุตบอลให้คิดถึงส่วนรวม และ Common Goal คือวิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้
“การที่นักฟุตบอลจะได้ตระหนักรู้ถึงโลกของเรา และได้รู้ว่าพวกเขามีพลังแค่ไหนในการที่จะใช้ฟุตบอลเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง”
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นพอจะบอกได้ว่า 1 ปีที่ผ่านมา Common Goal สามารถทำประตูแรกได้เรียบร้อยแล้ว
ประตูแรกที่แลกมาด้วยการทำให้ทุกคนเชื่อว่าโครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่โครงการเพ้อฝัน
แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง สามารถช่วยเหลือคนได้จริงด้วยวิธีที่ทำได้และได้ผลจริง
ประตูที่สองกับความรู้สึกลึกๆ ในใจ
“มันไม่ใช่ว่าเป็นเพราะผม” มาตาให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ในระหว่างการประชาสัมพันธ์โครงการเมื่อเดือนตุลาคมปีกลาย “มันต้องมีใครสักคนที่เริ่มต้นทำในสิ่งเหล่านี้ เพียงแค่ผมเป็นคนเริ่มเท่านั้น”
ความคิดที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นของปีกชาวสเปนมาจากค่ำคืนแห่งความสูญเสีย เมื่อพ่อของพ่อที่เคยเฝ้าดูเขาฝึกซ้อมและติดตามเชียร์เขาลงสนามทุกนัดจากไปเมื่อต้นปี 2017
“คืนก่อนที่เขาจะจากไป ผมลงสนามในเกมที่พบกับแซงต์-เอเตียน และในเกมนั้นผมผ่านบอลให้ เฮนริค มคิตาร์ยาน ทำประตูชัยให้ทีมได้ วันนั้นเป็นคืนวันพฤหัสบดี และผมก็หวังว่าผมจะได้พบกับเขาในนัดชิงฯ แคปิตอลคัพในวันอาทิตย์ แต่เขาเสียไปก่อนในคืนวันศุกร์”
มาตาเดินทางกลับบ้านทันทีในวันเสาร์ และได้รู้ว่าในคืนก่อนสิ้นลมหายใจ ปู่ของเขายังเฝ้าติดตามและชมว่าเขาจ่ายบอลได้สวย ซึ่งลูกนี้กลายเป็นการผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูที่เขาจดจำไปตลอดชีวิต เป็นต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจที่เขาอยากจะทำให้คนอื่นได้มีความสุข
ความสูญเสียในคืนนั้น มาตาคิดถึงการตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เขาได้รับกำลังใจและคำแนะนำจากน้องสาวที่เป็นนักเดินทางที่รักอิสระ และทำให้เขาได้เริ่มหันมามองเกมฟุตบอลในมุมมองใหม่
หลังจากนั้นมาตาได้พบกับ เยอร์เกน กรีสเบค ผู้ก่อตั้ง streetfootballworld ซึ่งทำงานในวงการฟุตบอลมากว่า 15 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นในโคลอมเบียในช่วงหลังเหตุโศกนาฏกรรมที่ อันเดรส เอสโคบาร์ อดีตปราการหลังทีมชาติถูกฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหดหลังทำเข้าประตูตัวเองในฟุตบอลโลก 1994
กรีสเบคและมาตาถูกชะตาและพบว่าพวกเขามีความคิดคล้ายกันในการจะใช้เกมฟุตบอลเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
แนวคิดแรกของพวกเขาคืองานนี้จะไม่ต้องมีอาสาสมัคร เป้าหมายอยู่ที่เงินบริจาค 1% ของโลกฟุตบอลทั้งใบ
ทั้งคู่รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายในการจะทำให้เป็นความจริง แต่มันเป็นไปได้เพราะกรีสเบคผู้ที่รับหน้าที่ในการบริหารองค์กรเป็นผู้มีประสบการณ์ในการรันวงการด้านนี้ ขณะที่มาตาผู้ที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงที่ทรงพลังก็มีความเชื่ออยู่เต็มเปี่ยม
ภาพของนักฟุตบอลตัวน้อยๆ ที่ลงไปเล่นฟุตบอลอย่างสนุกสนานในทุกที่ที่เขาได้ไปเยือนไม่ว่าบนพื้นนั้นจะมีหญ้าหรือไม่ ลูกฟุตบอลจะทำจากอะไรก็ตาม มันทำให้มาตารู้ว่าฟุตบอลคือสิ่งที่โลกใบนี้รัก และมันมีพลังที่เทียบเท่ากับธานอสและมณีแห่งพลังทั้ง 6
จากจุดเริ่มต้นนั้น วันนี้ Common Goal รวบรวมเงินบริจาคได้แล้วถึง 615,000 ปอนด์ในระยะเวลา 1 ปี
ในจำนวนนี้เงินถูกใช้ไปแล้ว 385,000 ปอนด์เพื่อสนับสนุน 27 โครงการฟุตบอลในระดับรากหญ้าทั่วโลก
อีก 85,000 ปอนด์ถูกใช้ในช่วงฟุตบอลโลก โดย Common Goal ได้ร่วมกับ WeWork และ Facebook ในการแก้ไขปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเพศ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และสิทธิในการเข้าถึงการศึกษา
นี่เป็นแค่ตัวอย่างของสิ่งที่ Common Goal ทำได้
และพวกเขาไม่คิดจะหยุดแค่นี้แน่ เพราะเป้าหมายใหญ่อยู่ที่การช่วยเหลือโลกให้ได้ตามเป้า United Nations Global Goals ของสหประชาชาติที่เหลือเวลาอีกเพียง 12 ปีเท่านั้น
ประตูที่สามกับคำถามถึงโลกลูกหนัง
แม้การเริ่มต้นในขวบปีแรกของ Common Goal จะถือว่าสวยงามพอสมควร แต่หากมองตัวเลขของจำนวนนักฟุตบอลอาชีพที่เข้าร่วมในโครงการนี้ที่มี 57 คนแล้ว ตัวเลขนั้นยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนนักฟุตบอลในโลกใบนี้
เทียบเป็นอัตราส่วนแล้วคิดเป็น 0.001% เท่านั้น
คำถามสำคัญต่อจากนี้คือจะทำอย่างไรเพื่อให้มีนักฟุตบอลเข้าร่วมโครงการมากกว่านี้
แน่นอนครับว่าหลังจากนี้เชื่อว่าจะมีสโมสรฟุตบอลอีกหลายแห่งที่เข้าร่วมด้วย เช่นกันกับนักฟุตบอลอีกมากมายที่คาดว่าจะเข้าร่วมโครงการที่ดีโครงการนี้
แต่มันจะดีกว่านี้มากหากนักฟุตบอลในระดับซูเปอร์สตาร์ของโลกสักคนตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย
สมมติหากในวันรุ่งขึ้น ลิโอเนล เมสซี หรือคริสเตียโน โรนัลโด ตกลงเข้าร่วม Common Goal ก็น่าจะทำให้โครงการนี้เป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
หรือลองจินตนาการว่าหากฟีฟ่าหรือยูฟ่าผลักดันให้ Common Goal เป็นวาระของโลกลูกหนัง
ไม่ใช่เพียงแค่เงินรายได้จากค่าเหนื่อย แต่รวมถึงรายได้จากการย้ายทีม การเซ็นสัญญาใหม่ เงินส่วนแบ่งของเอเจนต์ ขอเพียง 1% ของทุกอย่างที่เกิดขึ้น นั่นหมายถึงจำนวนเงินที่จะเพิ่มขึ้นอีกมากมายมหาศาล
เปรียบเทียบง่ายๆ เช่น ตัวเลขเม็ดเงินที่ซื้อขายผู้เล่นในพรีเมียร์ลีกช่วงฤดูร้อน 2018 คาดว่าจะสูงถึง 1,000 ล้านปอนด์ ซึ่งหากคิดเป็น 1% จะหมายถึงเงิน 10 ล้านปอนด์ที่จะสามารถนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือโลกใบนี้ได้
อย่างไรก็ดี การที่แม้แต่สตาร์ในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของมาตาอย่าง พอล ป็อกบา หรือมาร์คัส แรชฟอร์ด ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ก็เป็นการสะท้อนว่าแนวคิดเรื่องนี้ต้องใช้ความพยายามและความอดทนค่อนข้างมากในการทำให้คนในโลกลูกหนังเชื่อว่าการสละเงินรายได้จำนวน 1% มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง
แต่การที่คนส่วนใหญ่ยังคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพวกเขานั้นไม่แปลก เพราะแต่ละคนก็มีเรื่องราวในชีวิตที่ต้องจัดการแตกต่างกันออกไป และการให้ความช่วยเหลือแบบนี้นั้นเป็นเรื่องของความสมัครใจ หาใช่บังคับกัน
หรือบางทีหลายคนอาจจะมีมูลนิธิของตัวเองอยู่แล้ว หรือให้การสนับสนุนช่วยเหลือใครอย่างเงียบๆ อยู่แล้ว จึงไม่ได้คิดจะยื่นมือช่วยเหลือโครงการนี้
สิ่งเหล่านี้มาตาเองก็รับรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอาจต้องใช้เวลาเพื่อเปิดทั้งตาและหัวใจ
หัวใจของ Common Goal จึงไม่ใช่เรื่องของเวลา เพราะเกมนี้ยาวนานกว่า 90 หรือ 120 นาที แต่มันคือเกมที่พวกเขาต้องลงสนามชั่วชีวิตนี้และตลอดไป หากแต่เป็นความเชื่อที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ด้วยการเสียสละแค่เล็กน้อยของคนในวงการฟุตบอล
“มันไม่สำคัญว่าจะต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน” มาตากล่าว “จะช้าหรือเร็ว ผมคิดว่าเราจะทำได้สำเร็จแน่นอน”
อ้างอิง:
- www.common-goal.org/Stories/looking-back-at-year-one-of-common-goal-96c58f2c9151
- www.theguardian.com/football/the-agony-and-the-ecstasy/2018/aug/04/juan-mata-charity-common-goal-nordsjaelland
- www.goal.com/en/news/one-year-on-juan-matas-common-goal-celebrates-anniversary/1lfujulfuqoxw1rp77tege5tuy
- www.telegraph.co.uk/football/2018/08/03/one-year-juan-matas-common-goal-initiative-has-gathered-momentum/
- วันก่อตั้ง Common Goal เป็นวันเดียวกับที่เนย์มาร์ย้ายจากบาร์เซโลนาไปร่วมทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 222 ล้านยูโร
- ในจำนวนนักฟุตบอลหลายร้อยคนที่ลงสนามในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา มีนักเตะในโครงการ Common Goal ลงชิงชัยด้วย 5 คน
- นักฟุตบอลที่เข้าร่วมโครงการ Common Goal มีทั่วโลกตั้งแต่ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ยุโรป, จีน ไปจนถึงหมู่เกาะฟาโร
- ตอนนี้ Common Goal มีดิจิทัลฮับ ทำให้แฟนๆ สามารถติดตามนักเตะที่ชื่นชอบในการช่วยสนับสนุนโครงการได้ด้วย
- ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับ Common Goal ได้ที่ www.common-goal.org