เทรดเดอร์ของธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุด 100 อันดับแรก (วัดจากฐานรายได้) มีแนวโน้มที่จะสร้างกำไรรวมกันถึง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 6.5 แสนล้านบาท จากการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ในปี 2022 จากข้อมูลและการคาดการณ์ของ Vali Analytics ในกรุงลอนดอน ซึ่งถือเป็นตัวเลขกำไรสูงสุดทำสถิติใหม่มากกว่าที่เคยทำไว้เมื่อ 14 ปีก่อนในปี 2009 ที่ระดับ 1.62 หมื่นล้านดอลลาร์
แม้ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจากสงครามในยูเครนจะก่อให้เกิดวิกฤตในยุโรป แต่ในอีกด้านหนึ่งเทรดเดอร์ที่เน้นเก็งกำไรในราคาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นสูงมาก
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ Vali นำมาวิเคราะห์ประกอบการคาดการณ์ในครั้งนี้ เป็นข้อมูลของธุรกิจเทรดดิ้งของธนาคารยักษ์ใหญ่ต่างๆ อย่าง Macquarie Group, Goldman Sachs Group, JPMorgan Chase & Co., Citigroup และ Morgan Stanley เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทที่เน้นการเก็งกำไรโดยตรงในสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง Vitol Group, Trafigura Group และ Glencore Plc ต่างรายงานกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้ทั้งสิ้น รวมทั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เน้นลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ด้วยเช่นกัน
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารยักษ์ใหญ่หลายแห่งได้ประโยชน์จากการที่ราคาของสินค้าพุ่งขึ้นจากหลังจากที่เศรษฐกิจโลกเผชิญและกำลังจะออกจากวิกฤตโควิด ตามมาด้วยการที่รัสเซียบุกเข้าไปในยูเครนก็ช่วยผลักให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ราคาก๊าซในยุโรปเพิ่มขึ้นถึง 500% จากปีก่อน ขณะที่ราคานิกเกิลพุ่งขึ้นถึง 250% ภายใน 2 วัน
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP