วันนี้ (26 กรกฎาคม) พล.ท. สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก (ทบ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิดล่าสุด ซึ่งทุกส่วนกำลังช่วยกันนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษา โดยนายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้หน่วยงานภาครัฐจัดชุดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองช่วยเหลือและรับผู้ติดเชื้อเข้าสู่โรงพยาบาล การจัดเตรียมพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อคัดแยก พักคอย ก่อนส่งเข้าสถานพยาบาล พร้อมกับให้ดำเนินการปรับสโมสรทหารและใช้สถานที่ของหน่วยทหารจัดทำเป็นพื้นที่พักคอย รวมทั้งการเพิ่มโรงพยาบาลสนาม โดยใช้ศักยภาพของโรงพยาบาลค่ายของเหล่าทัพดำเนินการนั้น
ล่าสุด พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก กรมแพทย์ทหารบก และทุกกองทัพภาค เร่งดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีทันที โดยเฉพาะการปรับการบริหารจัดการโรงพยาบาลค่ายทุกแห่งและโรงพยาบาลสนามเดิมที่เตรียมไว้ทั้งหมดให้เป็นโรงพยาบาลสนามกองทัพบกประจำพื้นที่หรือจังหวัด เป็นโรงพยาบาลรองรับการให้บริการผู้ป่วยติดเชื้อในจังหวัดอย่างเต็มรูปแบบ โดยทำงานร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดในการรับและรักษาผู้ติดเชื้อ เพื่อให้การบริการประชาชนในสถานการณ์โควิดในแต่ละจังหวัดได้เต็มศักยภาพและทันต่อการแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยใช้บุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพบกร่วมกับสาธารณสุขประจำพื้นที่ดูแลผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ โรงพยาบาลกองทัพบก 37 แห่ง มีความพร้อมสามารถรองรับผู้ป่วยโควิดได้ถึง 3,600 เตียง
อีกทั้งในปัจจุบันโรงพยาบาลค่ายของกองทัพบกยังรับหน้าที่เป็นสถานพยาบาลที่ดูแลให้คำปรึกษาแก่ผู้ติดเชื้อโควิดที่แยกกักตัวที่บ้าน ‘Home isolation’ ในแต่ละจังหวัดอีกด้วย
นอกจากนี้กองทัพบกกำลังเร่งปรับและเตรียมสถานที่สโมสรทหารบก เพื่อจัดตั้งศูนย์ สำหรับคัดแยกผู้ติดเชื้อและพักรอ ก่อนที่จะส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามกองทัพบกและโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ กทม. ต่อไป
สำหรับโรงพยาบาลค่ายของกองทัพบกทุกแห่งที่ได้ปรับเป็นโรงพยาบาลสนามกองทัพบกประจำจังหวัด ล่าสุดเปิดรับดูแลผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 17 แห่ง มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้ว 1,466 คน (วันที่ 24 กรกฎาคม) โดยในพื้นที่ กทม. มีโรงพยาบาลสนามกองทัพบกเปิดรับการรักษาดูแลผู้ป่วย 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสนามกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 (300 เตียง), โรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 11 (178 เตียง)
ส่วนในพื้นที่ภาคกลาง กองทัพภาคที่ 1 เปิดรับดูแลจำนวน 7 แห่ง (โรงพยาบาลสนามกรมพลาธิการทหารบก จังหวัดนนทบุรี, โรงพยาบาลสนามศูนย์การทหารราบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, โรงพยาบาลสนามกองพันเสนารักษ์ที่ 1 จังหวัดลพบุรี, โรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 19 จังหวัดสระแก้ว, โรงพยาบาลสนามกรมการทหารช่าง จังหวัดราชบุรี, โรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 17 จังหวัดกาญจนบุรี, โรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 18 จังหวัดสระบุรี)
ภาคอีสาน กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 4 แห่ง (โรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 28 จังหวัดเลย, โรงพยาบาลสนามกองพันเสนารักษ์ที่ 6 จังหวัดร้อยเอ็ด, โรงพยาบาลสนามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 จังหวัดบุรีรัมย์, โรงพยาบาลสนามกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 จังหวัดยโสธร)
ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 รับผู้ป่วยแล้ว 2แห่ง (โรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 310 จังหวัดตาก, โรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 35 จังหวัดอุตรดิตถ์)
ภาคใต้ กองทัพภาคที่ 4 รับผู้ป่วยแล้ว รวม 5 แห่ง (โรงพยาบาลสนามกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5 จังหวัดสงขลา, โรงพยาบาลสนามกรมสนับสนุนกองพลทหารราบที่ 15 จังหวัดสงขลา, โรงพยาบาลสนามกองพลพัฒนาที่ 4 จังหวัดสงขลา, โรงพยาบาลสนามกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 จังหวัดระนอง, โรงพยาบาลสนามกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่)
โดยผู้ติดเชื้อโควิดสามารถติดต่อเข้ารับการรักษาและขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด-19 กองทัพบก ได้ตลอด 24 ชั่วโมง Call Center โทร. 0 2092 7766 และ 08 8984 7605-10