หลังการเปิดตัว iPhone 14 ของ Apple เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ซึ่งประเทศไทยได้รับการขยับขึ้นมาเป็นประเทศ Tier 1 ของการจำหน่าย iPhone 14 ก่อนจะเริ่มต้นวางจำหน่ายเป็นวันแรกในวันนี้ 16 กันยายน 2565
สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้มีการจอง iPhone 14 ล่วงหน้า ถือว่ามีกระแสตอบรับดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสินค้าถูกจองหมดเร็วยิ่งขึ้น ขณะที่จำนวนสินค้าใกล้เคียงกับเมื่อปีก่อน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- แกะพอร์ต 10 หุ้น ในมือ สุระ คณิตทวีกุล เจ้าของ COM7 มหาเศรษฐีไทย อันดับที่ 49
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65
“การขาย iPhone 14 ในปีนี้จะช่วยให้งบไตรมาส 3 ดีขึ้นจากปีก่อนๆ ที่มักจะเป็นไตรมาสที่ชะลอตัว เพราะปกติแล้ว iPhone รุ่นใหม่จะเริ่มขายในไตรมาส 4 และในปีนี้ iPhone 13 ยังคงขายดี หลังจากที่ผู้บริโภคเห็นแล้วว่าสเปกของ iPhone 14 เป็นอย่างไร เชื่อว่าไตรมาส 3 ปีนี้จะไม่แย่ที่สุดของปี แต่ไตรมาส 4 ยังน่าจะเป็นช่วงที่พีคที่สุด”
สุระกล่าวต่อว่า แนวโน้มยอดขายของบริษัทน่าจะยังเติบโตได้ 15-20% ต่อปี ในอีก 3-5 ปีต่อจากนี้ และด้วยการเติบโตในระดับนี้ เชื่อว่าบริษัทจะมีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ของตลาดสินค้าไอทีซึ่งมีมูลค่าตลาดราว 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 20% ในปัจจุบันไปอยู่ที่ประมาณ 30%
ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า คาดว่ารายได้ของบริษัทน่าจะขยับขึ้นไปแตะระดับ 1 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้เกือบ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทจะต้องเปิดสาขาเพิ่มเติมอีกปีละกว่า 100 แห่ง ใกล้เคียงกับในอดีตที่ผ่านมา
นอกจากส่วนของธุรกิจหลักเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าไอที บริษัทยังได้ขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่นอกเหนือไปจากสินค้าไอที ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ไปกว่า 2 พันล้านบาท นับเป็นปีที่ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ มากที่สุด
“การขยายธุรกิจอื่นจะทำบนสิ่งที่เราถนัดและต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ คือฐานลูกค้ากว่า 3 ล้านราย และความถนัดในเรื่องค้าปลีก การเข้าซื้อธุรกิจเป็นเรื่องง่าย แต่จะทำให้เติบโตได้หรือไม่เป็นสิ่งสำคัญ”
สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ บริษัทจะเน้นในเรื่องของการ Synergy โดยมีหลักการสำคัญคือ ธุรกิจนั้นต้องไม่อยู่ในเทรนด์ขาลง และอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าตลาดสูง
ส่วนการซื้อหุ้นคืนของบริษัทที่ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ปัจจุบันซื้อหุ้นคืนไปแล้วทั้งสิ้น 10 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.42% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่า 337.7 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนจะซื้อหุ้นคืนทั้งหมดไม่เกิน 30 ล้านหุ้น
การตัดสินใจซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ สุระมองว่าบริษัทยังคงเติบโตได้ดี ขณะที่ราคาหุ้นวันนี้ยังไม่แพงเทียบกับการเติบโต ขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้เงินเพื่อลงทุน
“มันเป็นโอกาสระหว่างการเติบโตของธุรกิจและราคาหุ้นในตลาด”
ส่วนประเด็นที่ว่าราคา iPhone 14 ในไทยแพงขึ้นกว่ารุ่นก่อน แม้ว่าราคาในสกุลดอลลาร์จะเท่าเดิม เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าราว 15% อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าสินค้าบางรุ่นแพงขึ้นเพียงประมาณ 7% ซึ่งเป็นเพราะการสนับสนุนจาก Apple