ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงเวลาที่คนต้อง Work from Home อยู่บ้านกันมากขึ้น ตลอดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา นอกจากการทำอาหารและปลูกต้นไม้แล้ว การแต่งบ้านก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก บางคนที่ไม่เคยช้อปปิ้งของแต่งบ้านเอง ก็หันมาใช้เวลาว่างสร้างมุมใหม่ในบ้าน หรือซื้อพร็อพน่ารักๆ มาแต่งจากหลายร้านค้าออนไลน์ ที่เราเองก็สังเกตว่ามีเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นเดียวกันในตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากจาน ชาม แก้วน้ำ เราขอยกให้ ‘พรมแต่งบ้าน’ เป็นหนึ่งไอเท็มที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดตามร้านค้าออนไลน์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่สะดุดตากับร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ขายพรมหน้าตาน่ารัก โดยเฉพาะแบบที่มีส่วนผสมของลายกราฟิกเรียบง่ายกับแพนโทนสีสวยหวาน ซึ่งในฐานะที่พรมแต่งบ้านสไตล์แบบนี้กำลังเป็นที่นิยม THE STANDARD POP อยากชวนคุณไปทำความรู้จักกับแบรนด์หนึ่งที่เรียกได้ว่า ทำให้พรมสไตล์นี้ฮอตขึ้นมาเลยก็ว่าได้ เรากำลังพูดถึงแบรนด์ที่มีชื่อว่า Cold Picnic ค่ะ
เมื่อสิบปีที่แล้ว (2010) สองศิลปินคู่รักฟีบี้ ซัง (Phoebe Sung) และ ปีเตอร์ บูเออร์ (Peter Buer) ร่วมกันสร้างแบรนด์ Cold Picnic ขึ้นมาในมหานครนิวยอร์ก เพื่อดึงเอาผลผลิตของความคิดสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันของผู้คน
แรกเริ่มเดิมทีฟีบี้มีความถนัดสายแฟชั่นและงานพิมพ์ ส่วนปีเตอร์ทำงานสายอินทีเรียร์ดีไซน์และภาพอิลลัสเตรชัน ก่อนมาบรรจบที่โรงเรียนแฟชั่น สถานที่ที่ทั้งคู่พบกันในปี 2006 และเกิดเป็นสตูดิโอออกแบบในเวลาต่อมา จากงานออกแบบจิวเวลรี นาฬิกา งานเครื่องหนัง เดินทางมาสู่ผืนพรม ผืนพรมนั้นเองกลายมาเป็นชิ้นงานที่อธิบายความเป็นตัวเองของทั้งคู่ได้มากที่สุด และเป็นโปรดักต์ที่ได้รับผลตอบรับสูงสุดจากผู้ใช้งาน ด้วยจุดเด่นที่คู่สี ลายเส้น และการวางองค์ประกอบที่ดูเรียบง่าย ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่แสดงความเป็นตัวตนของ Cold Picnic ได้อย่างดีที่สุด เราสามารถนิยามผลงานของพวกเขาได้ว่า ดีไซน์ของพวกเขาคือการลดทอนเรื่องยากรอบตัวให้กลายเป็นงานศิลปะประจำบ้าน
แรงบันดาลใจหลักในงานออกแบบทุกชิ้นของ Cold Picnic คือภาพทัศนียภาพ (Landscape) ทั้งจากที่เห็นจริงในชีวิตผ่านการท่องเที่ยว หรือผ่านทางการชมภาพยนตร์ ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่ทั้งคู่ชื่นชอบ โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง The Passenger ที่เป็นเรื่องโปรดของทั้งคู่ และกลายมาเป็นหนึ่งในคอลเล็กชันอันโด่งดังของแบรนด์
ภาพที่มองเห็นทางสายตาถูกลดทอนลงให้เหลือเพียงองค์ประกอบง่ายๆ ที่มีความเจ๋งอยู่ตรงที่คนมองเองก็นึกออกด้วยว่าดีไซเนอร์ต้องการจะสื่อหรือบอกเล่าเรื่องราวอะไร นอกจากการใช้เทคนิคทางศิลปะอย่างลายเส้น การจับคู่สี และการวางองค์ประกอบแล้ว ยังใช้เทคนิคการทำพรมในแบบสแกนดิเนเวียเข้าร่วมในชิ้นงานด้วย อย่างเท็กซ์เจอร์ที่แตกต่างกันของแต่ละรูปร่างในพรมผืนเดียว
ลากยาวไปจนถึงการคิดต่อว่าผืนพรมแต่ละชิ้นสามารถถูกพัฒนาต่อไปเป็นงานอินสตอลเลชันแบบไหนได้บ้าง ทำให้พรมหนึ่งผืนจะวางบนพื้นก็ได้ แขวนกับผนังก็ได้ หรือแม้กระทั่งจะห้อยแขวนเป็นโมบายล์ก็ทำให้ห้องสวยได้เหมือนกัน
อีกคอลเล็กชันหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากของ Cold Picnic นั่นคือ The Private Parts ที่ดึงเอาสิ่งเร้นลับในร่างกายมาแสดงความเป็นตัวตนผ่านการตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งทั้งคู่บอกว่าทั้งหมดนี้เกิดจากความบังเอิญจากการสเกตช์งานเรื่อยๆ ไปในกระดาษ แต่เราคิดว่านี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ทั้งคู่มองว่าชีวิตประจำวันกับงานเป็นเรื่องเดียวกัน และความสนุกของชีวิตประจำวันก็กลายเป็นงานได้เช่นกัน แม้จะเป็นแง่มุมเล็กน้อย แต่เมื่อเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจตรงกัน ก็ทำให้ครองใจคนหมู่มากได้ไม่ยาก
ถึงงานฮอตฮิตติดลมบนของ Cold Picnic จะเป็นผืนพรมอย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆ แต่ทั้งคู่ก็ยังคงทำงานดีไซน์หลากหลายประเภทเช่นเดิมอย่างที่เคยทำมา นั่นก็เพราะความสนุกของงานออกแบบสำหรับทั้งคู่ คือการใช้วัสดุและเทคนิคมาเติมแต่งสร้างสรรค์พื้นที่ให้ทั้งห้องดูเป็นเรื่องราวเดียวกันไปทั้งหมด โดยที่ไม่จำเป็นต้องแยกว่าของชิ้นนั้นจะเป็นแค่จิวเวลรีชิ้นเล็ก ที่แขวนห้อยกระถางต้นไม้ หรือพรมตกแต่งผืนใหญ่ แต่เลือกจะท้าทายตัวเองด้วยการเชื่อมประสานของต่างประเภทเหล่านี้ให้เป็นคอลเล็กชันเดียวกันให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยการใช้วัสดุหรือเทคนิคการผลิตที่มีให้ทดลองอย่างไม่มีวันจบ
ตามไปส่องงานน่ารักๆ ของ Cold Picnic ได้ที่ https://www.coldpicnic.com/ และ www.instagram.com/coldpicnic/
ภาพ: Courtesy of the Brand
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
