หุ้นกลุ่มถ่านหินวิ่งแรง รับอานิสงส์ราคาพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังทางการจีนสั่งปิดเหมืองขนาดเล็ก

หุ้นกลุ่มถ่านหินคึกคักรับอานิสงส์ราคาถ่านหินพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับปริมาณถ่านหินในประเทศจีนที่ขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศที่เพิ่มขึ้นมาก หลังจีนสั่งปิดเหมืองถ่านหินขนาดเล็กในประเทศ รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนกับออสเตรเลีย

ความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มถ่านหินวันนี้ (1 ตุลาคม) ปรับตัวขึ้นร้อนแรง นำโดยหุ้น บมจ.บ้านปู (BANPU), หุ้น บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) และหุ้น บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE)

โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายหุ้น BANPU ปรับตัวขึ้นไปสูงสุด 6.45% ที่ 13.20 บาท ก่อนจะย่อตัวลงและยืนที่ 13 บาท เพิ่มขึ้น 4.48% เมื่อปิดการซื้อขาย

ขณะที่หุ้น LANNA พุ่งทะยานขึ้นไป 11.88% ทำจุดสูงสุดที่ 28.25 บาท และอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.96% 

ส่วนหุ้น AGE ราคายืนจุดสูงสุดของวัน 3.34 บาท และย่อตัวลงมาปิด ณ สิ้นวันทำการที่ 3.22 บาท เพิ่มขึ้น 3.87%

กิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มถ่านหิน ทั้งหุ้น BANPU, LANNA และกระจายไปยังหุ้น AGE เป็นผลบวกจากราคาถ่านหินที่สร้างสถิติใหม่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 218 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นับเป็นสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ จากที่เคยสูงสุดระดับ 118 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเมื่อปี 2551

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับตัวขึ้นดังกล่าว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นผู้ใช้และนำเข้าถ่านหินรายใหญ่สุดของโลกฟื้นตัวขึ้นอย่างมากภายหลังการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิดสำเร็จ ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มมาก อย่างไรก็ตาม ปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนและออสเตรเลีย ทำให้จีนระงับการสั่งซื้อถ่านหินจากประเทศดังกล่าว รวมทั้งจีนยังมีคำสั่งปิดเหมืองถ่านหินขนาดเล็กภายในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณถ่านหินไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของผู้ประกอบการในประเทศ

“วิกฤตพลังงานในจีนเกิดจากจีนหยุดนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียเพราะความขัดแย้งที่มีต่อกัน หันไปนำเข้าถ่านหินจากอินโดนีเซียและรัสเซียเท่านั้น และยังมีการปิดเหมืองขนาดเล็กตอนที่เศรษฐกิจกำลังดี ซึ่งโรงไฟฟ้าในจีนไม่ผลิตถ่านหินเอง เพราะไม่คุ้มทุน ตอนนี้จึงมาแย่งกันซื้อ ราคาก็เลยสูงขึ้น”

ด้านชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า BANPU จะได้ประโยชน์จากราคาถ่านหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย รัสเซีย และออสเตรเตรเลีย ซึ่งถือเป็นแหล่งในการส่งออกถ่านหินรายใหญ่ของโลก ดังนั้น แม้จีนจะระงับการสั่งซื้อถ่านหินจากออสเตรเลีย แต่ BANPU ยังได้รับประโยชน์จากคำสั่งซื้อถ่านหินที่เพิ่มมากขึ้นจากแหล่งผลิตอื่น รวมทั้งยังได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น

ส่วน LANNA ซึ่งมีเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย มีแรงซื้อเข้ามามาก เนื่องจากคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งคำสั่งซื้อของจีนจะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ชาญชัยกล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การเข้าลงทุนในหุ้น BANPU และ LANNA แนะนำให้นักลงทุนลงทุนแบบเทรดดิ้ง โดยต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดว่าราคาถ่านหินจะทรงตัวระดับสูงนานแค่ไหน และแนวโน้มราคาจะเป็นอย่างไร

โดยในส่วนของ BANPU แม้ผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะส่งสัญญาณการเทิร์นอะราวด์จากฐานปีก่อนที่อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งบริษัทยังนำกลยุทธ์ Greener & Smarter ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัล เพื่อขยายการเติบโตสู่พลังงานสะอาด รองรับเทรนด์แห่งโลกอนาคต จะสามารถตอบโจทย์และต่อยอดทางธุรกิจได้ตามเป้าหมายหรือไม่

นอกจากนี้ พบว่าราคาหุ้น BANPU ณ ปัจจุบันเต็มมูลค่าที่ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส คาดการณ์แล้ว

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส คาดว่าในปีนี้ BANPU จะมีกำไรสุทธิ 5,239 ล้านบาท มีมูลค่าตามราคายุติธรรม (Fair Value) ที่ 13 บาท ส่วนในปีหน้ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 1.6% เป็น 5,325 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถประเมินราคายุติธรรมได้

“หุ้นที่เราวิเคราะห์อยู่คือ BANPU ตัวเดียว แต่ตอนนี้ราคาเต็มมูลค่าแล้ว ทั้งหุ้น BANPU และ LANNA เราแนะนำให้เทรดดิ้งเพราะยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม นักลงทุนต้องเกาะติดราคาถ่านหินว่าจะเป็นอย่างไร จะสูงได้ยาวนานแค่ไหน แผนงานที่แต่ละบริษัทวางไว้จะสำเร็จตามแผนหรือไม่ ส่วน AGE ทำธุรกิจแบบซื้อมาขายไป ความสามารถในการทำกำไรจะไม่ดีเท่า 2 ตัวแรก และเป็นหุ้นที่วิ่งขึ้นมาแบบเกาะกระแส เราไม่มีคำแนะนำ” ชาญชัยกล่าว

สำหรับ BANPU ถือเป็นผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ดำเนินธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรครอบคลุม 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

1. กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน เช่น ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ

2. กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน เช่น โรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป และจากพลังงานหมุนเวียน

3. กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน เช่น ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ระบบจัดเก็บพลังงาน และระบบการจัดการเทคโนโลยีพลังงาน

ขณะที่ LANNA ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายถ่านหินทั้งในและต่างประเทศ แบ่งเป็น 

1. ธุรกิจถ่านหินในประเทศ เป็นการนำเข้าถ่านหินจากเหมืองร่วมทุนและจากแหล่งอื่นในอินโดนีเซียมาจำหน่าย

2. ธุรกิจถ่านหินในต่างประเทศ คือการเข้าไปร่วมลงทุนทำเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย โดยนำเข้าถ่านหินจากเหมืองร่วมทุนมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศ และส่งไปจำหน่ายยังประเทศอื่นในแถบภูมิภาคเอเชีย

ส่วน AGE ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายถ่านหินสะอาด เพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ และประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งทางบกโดยรถบรรทุกและทางน้ำโดยเรือลำเลีย

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP