เมื่อวานนี้ (22 กันยายน) บริษัท Clover Biopharmaceuticals สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีชีวภาพของจีน ได้ออกแถลงการณ์ รายงานผลการทดลองทางคลินิก ในเฟส 2/3 ของวัคซีนต้านโควิด SCB-2019 ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้น พบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาได้ถึง 79%
โดยวัคซีน SCB-2019 เป็นวัคซีนแบบ Protein Subunit หรือวัคซีนที่ทำจากโปรตีนบางส่วนของไวรัส ซึ่งจากการทดลองยังพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพต้านทานไวรัสสายพันธุ์แกมมา (Gamma) หรือสายพันธุ์ P.1 ที่พบครั้งแรกในบราซิล ได้ 92% และต้านทานไวรัสสายพันธุ์มิว (Mu) หรือสายพันธุ์ B.1.621 ที่พบครั้งแรกในโคลอมเบีย ได้ 59% ซึ่งจากการประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของวัคซีนต่อไวรัสโควิดทุกสายพันธุ์ พบว่าอยู่ที่ประมาณ 67%
บริษัท Clover ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่นครเฉิงตู มณฑลเสฉวนของจีน และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนที่ได้เข้าร่วมโครงการ COVAX ยังระบุในแถลงการณ์ว่า วัคซีน SCB-2019 เป็นวัคซีนตัวแรกที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการต้านทานไวรัสโควิดสายพันธุ์ เดลตา แกมมา และมิว ซึ่งความแตกต่างของประสิทธิภาพวัคซีนกับไวรัสแต่ละสายพันธุ์ เป็นผลจากรูปแบบการกลายพันธุ์ของไวรัสที่ต่างกัน ทำให้ไวรัสบางสายพันธุ์แพร่เชื้อได้มากกว่าและอาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ด้วย
สำหรับการทดลองวัคซีนนั้น บริษัท Clover เปิดเผยว่า ได้ให้วัคซีน SCB-2019 แก่ผู้ที่เข้าร่วมการทดลองที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ จำนวนมากกว่า 30,000 คนในหลายประเทศแถบเอเชีย ยุโรป ลาตินอเมริกา และแอฟริกา
ซึ่งผู้เข้าร่วมทดลองแต่ละคน จะได้วัคซีน 2 โดส เว้นระยะห่างกัน 21 วัน และข้อมูลเบื้องต้นพบว่าวัคซีนสามารถจัดเก็บได้ที่อุณหภูมิประมาณ 2-8 องศาเซลเซียส และเก็บได้นาน 6 เดือน
ขณะที่ Clover ได้รับเงินทุนสนับสนุนการทดลองวัคซีน จำนวน 328 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations: CEPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งโครงการ COVAX
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนกาวี (Gavi) ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง COVAX ก็ประกาศข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้าจาก Clover จำนวน 414 ล้านโดส สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วโลกในปีหน้า ซึ่งในปีนี้ Clover จะจัดส่งวัคซีน 64 ล้านโดส สำหรับการใช้งานกรณีฉุกเฉิน โดยอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก
ภาพ: cloverbiopharma.com
อ้างอิง:
