วันนี้ (16 ตุลาคม) พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงมาตรการดูแลสถานการณ์การชุมนุมของกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ระบุว่าตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ตำรวจจะเข้าควบคุมพื้นที่และการจราจรถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชดำริถึงแยกประตูน้ำ และถนนพระราม 1 ต่อเนื่องถนนเพลินจิต ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่าถึงแยกชิดลม โดยไม่อนุญาตให้รถทุกชนิดและประชาชนที่ไม่มีกิจธุระสัญจรหรือเข้ามาในพื้นที่แยกราชประสงค์ โดยจะมีการตั้งจุดคัดกรองบุคคลอย่างเข้มงวด
ดังนั้นจึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองที่จะมารับบุตรหลานและบุคคลที่ทำงานหรือมีธุระในย่านดังกล่าว ขอให้ปรับเวลา ปรับการใช้ยานพาหนะในการเดินทาง และศึกษาเส้นทางเลี่ยงซึ่งมีถึง 12 เส้นทางรอบพื้นที่ ผ่านทางสายด่วน 1197 หรือแอปพลิเคชัน M-Help me
นอกจากนี้ พล.ต.ต. ยิ่งยศ ยังเปิดเผยอีกว่าที่ผ่านมาตำรวจยังไม่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีการแจ้งเตือนผู้ชุมนุมมาตลอด แต่ที่ผ่านมายังมีประชาชนฝ่าฝืนอยู่ ซึ่งตำรวจไม่ได้เข้าจับกุมทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกัน แต่ตำรวจก็จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีภายหลัง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีการจับกุมผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงเพิ่มเติมอีก 7 คน กรณีนำรถพร้อมเครื่องขยายเสียงเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม แต่วันนี้จะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการห้ามชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป ซึ่งหลังประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินได้เน้นย้ำห้ามจัดการชุมนุมโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนเยาวชนและประชาชนที่โพสต์หรือแชร์ข้อความแสดงความคิดเห็นผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียว่ามีข้อกฎหมายกำกับอยู่ทั้ง พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี หรือปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอฝากให้ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลาน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์