วานนี้ (22 กันยายน) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อสรุปการสืบสวนสอบสวนขยายผลการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยแยกเป็นผิดมาตรา 157 และกรณีการรับส่วยจาก 2 สามี-ภรรยา คือ สมปอง ณ กุล และ ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ เจ้าของโกดังเก็บดอกไม้ไฟบ้านมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย ได้รับบาดเจ็บ 389 ราย และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 649 หลัง
โดยการสรุปคดีในครั้งนี้มีการเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจงแก่ตัวแทนผู้เสียชีวิตที่ได้เดินทางมาร่วมฟังการชี้แจงสรุปในครั้งนี้ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย
- ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ เจ้าของโกดัง
- สมปอง ณ กุล ผู้ดูแลโกดัง
- ปฐมพร หรือ ธรรม พรหมสกุล ช่างรับเหมา
ในความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และร่วมกันก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต พนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 822 ปาก มีเอกสารในสำนวนมาก 6,529 แผ่น โดยสรุปสำนวนการสอบสวนส่งอัยการจังหวัดนราธิวาสแล้วในวันที่ 18 กันยายน 2566
นอกจากนี้ จากการสืบสวนพบว่าเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดมาจากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการนำเข้า จำหน่าย และเก็บรักษาดอกไม้ไฟ บางรายมีการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐรวม 16 ราย ดังนี้
- เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 ราย
- เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล 4 ราย
- เจ้าหน้าที่ศุลกากร 7 ราย
- เจ้าหน้าที่ทหาร 1 ราย
โดยดำเนินคดีในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 16 ราย ได้รับมอบตัวและแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ดำเนินการส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. แล้ว 8 ราย อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีอีก 8 ราย
ส่วนกรณีการลักลอบจำหน่ายดอกไม้ไฟ เจ้าหน้าที่สืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า ดอกไม้ไฟในโกดังที่เกิดเหตุซึ่งผู้ต้องหาได้สั่งซื้อมานั้นมาจากผู้ค้าหลายราย ทั้งในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุด ซึ่งเป็นผู้ค้าและผู้นำเข้าดอกไม้ไฟจากต่างประเทศ จึงได้ตรวจยึดของกลางเป็นดอกไม้ไฟมากถึง 959 ลัง ซึ่งเป็นของกลางที่ลักลอบนำเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายจากเครือข่ายจำนวน 7 บริษัท จากนั้นมีการลักลอบค้าและจำหน่ายดอกไม้ไฟให้กับสมปอง โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งการดำเนินคดีกับทั้ง 7 บริษัท อยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาและรับสารภาพแล้วบางส่วน จะดำเนินการเสร็จสิ้นทั้งหมดในสัปดาห์หน้า
จากนี้หากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับบุคคลใดเพิ่มเติมอีกก็จะนำตัวมาดำเนินคดีจนถึงที่สุดต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นแต่ละหน่วยงานอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาหลักเกณฑ์ เพื่อเร่งมอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้เสียหาย เยียวยาและฟื้นฟูบ้านเรือนจากความสูญเสียดังกล่าวโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังได้ชี้แนวทางแก่ตัวแทนผู้เสียชีวิตว่า อยากให้ทุกท่านรวมตัวกันไปฟ้องร้องทางแพ่ง คือทางตำรวจไม่มีอำนาจในการฟ้องคดีแพ่ง ซึ่งเราต้องตั้งทนาย โดยการอาศัยต้นทางทางตำรวจเมื่อชี้ว่าใครผิด อย่างที่เห็นเจ้าของโกดังต้องชดใช้อย่างแน่นอน รวมทั้ง 7 บริษัทด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าในส่วนพื้นที่ของท่านสามารถปรึกษาผู้กำกับหรือผู้การตำรวจได้