วันนี้ (10 มกราคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 6 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ที่มี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม หลังจบช่วงหารือ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตัวแทนวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นหารือ
ณัฐวุฒิกล่าวว่า เมื่อคืนประมาณ 21.00 น. ตนได้รับข้อความแจ้งว่ามีการเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระการประชุม ให้วันพรุ่งนี้ (11 มกราคม) จะมีร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อประชาชน ของรัฐบาลเข้าให้ที่สภาพิจารณา และมีเอกสารชี้แจงจากวิปรัฐบาลว่า พ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งใน 4 ร่าง พ.ร.บ. ที่จะเข้าพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ล้วนประกอบด้วยร่างที่เสนอโดยรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย
อย่างไรก็ตาม อีก 3 ร่างที่ไม่ได้เข้าสู่ระเบียบวาระคือ ร่างที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล และพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก็ผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นแล้ว ซึ่งมีการอ้างว่าฉบับของก้าวไกลส่งมาล่าช้า เมื่อวันที่ 5 มกราคม แต่ฉบับของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งมาวันที่ 9 มกราคม กลับบรรจุเมื่อคืนได้ทัน ขณะที่ฉบับของก้าวไกลกลับไม่ได้บรรจุ
ณัฐวุฒิยังกล่าวอีกว่า ตามที่เคยเสนอมาตลอดให้แยกวันประชุมให้ชัดว่าวันใดจะพิจารณากฎหมาย เพื่อให้สมาชิกเตรียมตัวได้ถูก แต่อย่างวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงจึงทำให้เตรียมเอกสารไม่ทัน คิดว่าเหตุการณ์วันนี้เพียงพอแล้วที่จะให้มีการกำหนดวันประชุมให้ชัดเจน
วันมูหะมัดนอร์ชี้แจงว่า เรื่อง พ.ร.บ.อากาศสะอาด จะขอรับไปตรวจสอบกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ส่วนตัวเห็นว่าแนวทางก็ควรเป็นไปตามที่ณัฐวุฒิเสนอ ว่าหาก พ.ร.บ. ใดที่เป็นหลักการเดียวกันก็ควรจะเสนอในคราวเดียวกัน ส่วนเรื่องวันประชุมนั้น จะตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างวิปเพื่อพิจารณาต่อไป
จากนั้น รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวแย้งว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และต้องเซ็นรับรองบ่อยครั้ง คำอธิบายมาล่าช้าหรือไม่มีเลย ความจริงไม่ต้องรอให้ประธานฯ ตรวจสอบอะไรเลย สมาชิกฝ่ายรัฐบาลก็อยู่ในห้องประชุมนี้ จะไม่ชี้แจงอะไรเลยหรือ จะตีมึนเหมือนไม่รู้อะไร ตกลงอยู่คนละพรรคกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พร้อมย้ำว่ากฎหมายดีๆ ที่มีหลักการเดียวกัน ควรพิจารณาในคราวเดียวกัน
ขณะที่ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นกล่าวว่า ยอมรับว่าเพิ่งส่งไปไม่นาน แต่ตอนนี้ก็ถึงมือนายกรัฐมนตรีแล้ว แค่นายกฯ เซ็นรับรองเท่านั้น แต่จะไม่เซ็นรับรองด้วยสาเหตุอะไร ส่วนร่างของ ครม. นั้น เพิ่งมาถึงวิปฝ่ายค้านเมื่อวาน และยังพิมพ์ผิดอยู่เลย นี่ถือว่า ครม. ล่าช้าหรือไม่ ทั้งที่ร่างของก้าวไกลส่งไปถึงก่อน
ทำให้ ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงย้ำว่า พ.ร.บ. ทั้ง 3 ฉบับนั้น ทางรัฐบาลยังไม่ได้รับ และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก ฝ่ายตนเองก็ร้อนใจ และอยากให้กฎหมายผ่าน จึงเร่งประสานไปยังรัฐบาล พร้อมรับปาก สส. จากพรรคก้าวไกลว่า วันนี้จะนำคำตอบจากรัฐบาลมาให้ได้ เพราะเห็นว่าหากพิจารณาร่วมกันทุกร่างจะดีกว่า
ท้ายสุด วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่าจะรับไปประสานกับทุกฝ่ายเอง แต่ขอเรียนไปยังรัฐบาลว่า หากไม่มีความขัดข้องในเรื่องข้อกฎหมาย และเป็นร่างกฎหมายที่มีหลักการเดียวกัน ควรนำมาพิจารณารวมกันเสียทีเดียวจะได้จบ ส่วนในรายละเอียดค่อยพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ
นายกฯ แจงไม่กีดกันใครทั้งสิ้น
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจงถึงกรณีรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด เพียง 4 ฉบับ จาก 7 ฉบับ ที่พรรคฝ่ายค้านต้องการให้เข้าสภาทั้ง 7 ฉบับ ว่า “มันไม่มา มันมาช้า”
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ยังไม่เห็นและยังไม่ทราบ” ต่อกรณีที่พรรคก้าวไกลระบุว่าส่งมาให้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมยืนยัน “ไม่ได้มีการกีดกันใครทั้งสิ้น ไม่มีแน่นอน”
ขณะที่ จักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงมติ ครม. เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ที่ให้นำร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด 4 ฉบับ เข้าสู่ที่ประชุมสภา ประกอบด้วย ร่างของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และร่างฉบับพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย รวมถึงร่างภาคประชาชน 22,000 รายชื่อ และจากการฟังความเห็นวันนี้จะมีอีก 2 ร่างที่นำเข้าสู่ที่ประชุมสภาด้วย คือร่างของพรรคประชาธิปัตย์และร่างของพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนข้อสงสัยที่อยู่ในโซเชียลมีเดียว่า ร่างของพรรคก้าวไกลคือ ฝุ่น PM2.5 และมลพิษข้ามแดนที่ไม่ถูกนำเข้าพิจารณา จักรพลกล่าวว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ข้อความหรือสาระ แค่อยู่ที่กฎระเบียบข้อบังคับที่มีขั้นตอนและไทม์ไลน์ของมันอยู่ ซึ่งฉบับของพรรคก้าวไกลที่ไม่ได้นำมาพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้เป็นเรื่องของไทม์ไลน์และระยะเวลา ซึ่งมีการส่งมายังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ตรงกับการพิจารณางบประมาณแผ่นดิน และได้รับเวลาประมาณ 14.45 น. ทำให้ไม่สามารถรับฟังความเห็นอีก 7-8 หน่วยงาน
“ตัวเล่มที่ได้มาเป็นเรื่องของระยะเวลาไทม์ไลน์มากกว่า และต้องตรวจสอบ รวมถึงให้หน่วยงานต่างๆ ให้ความเห็นกลับมา เพราะฉะนั้นเพื่อให้ความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี ถ้ามีเอกสารใดที่ไม่ได้รับความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างครอบคลุมและทุกมิติ ก็คงจะให้ท่านลงนามไม่ได้ เพราะมันเป็นส่วนของความถูกต้อง ระเบียบและข้อบังคับที่ทีมงานของเลขาธิการนายกรัฐมนตรีต้องระวัง”
ส่วนที่ถูกมองว่าเนื้อหาร่างฉบับพรรคก้าวไกลจึงทำให้ถูกตีตกใช่หรือไม่ จักรพลกล่าวว่า ตรงนี้ต้องขอแสดงอย่างชัดเจนว่าประเด็นตรงนั้นหมดห่วงได้เลย ด้วยความจริงใจ ความตั้งใจ และเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลอยู่แล้วที่ต้องหาทางแก้ไขปัญหา ทุกชุดข้อมูลความคิดในร่างของพรรคก้าวไกลในเรื่องฝุ่นมลพิษข้ามแดน ซึ่งในทุกร่างที่มีอยู่ขณะนี้มีการพูดเรื่องนี้อย่างครบถ้วน แต่ต่างวัตถุประสงค์กันออกไป จากการถอดชุดความรู้ในทุกร่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่ออากาศบริสุทธิ์ หากว่าห่วงร่าง พ.ร.บ. ของพรรคก้าวไกลจะถูกตีตกไป ไม่ถูกนำมาพิจารณา ขอให้สบายใจว่าไม่มีประเด็นนั้นแน่นอน และในฐานะที่ตนจะเข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการชุดนี้ขอให้ความมั่นใจว่า ทุกข้อมูล ทุกไฮไลต์ในร่างฉบับพรรคก้าวไกลจะถูกนำมาพิจารณาอย่างเข้มข้น เสริมและเติมเข้าไป
เพราะฉะนั้นถ้าห่วงในประเด็นที่ว่าเราตีตก เราไม่ให้ความเป็นธรรม เราเล่นการเมืองมากกว่า ขอให้ตัดประเด็นนี้ไป เพราะนโยบายของรัฐบาลเศรษฐาทำงานอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ อะไรที่เป็นประโยชน์เรานำมาใช้ นำมาพิจารณาทั้งสิ้น
ก้าวไกล-ประชาธิปัตย์ เรียกร้องรัฐบาลอย่าสกัดขาทางการเมือง
จากนั้นเวลา 14.30 น. พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร สส. เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล และ ร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส. พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงนามบรรจุร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาด ของฝ่ายค้านเข้าเป็นเรื่องเร่งด่วนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (11 มกราคม)
ภัทรพงษ์กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่จะเข้าสภาในวันพรุ่งนี้มีเพียง 4 ร่างจากทั้งหมด 7 ร่าง ซึ่งร่างของฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลและพรรคประชาธิปัตย์ ที่นายกฯ ยังไม่ลงนาม ซึ่งตนได้ยินมาว่าสาเหตุเป็นเพราะร่างของพรรคก้าวไกลไม่เหมือนกับร่างของ ครม. ตนยืนยันว่าไม่จริง เพราะหลักการและเนื้อหาของเรามีเป้าหมายเดียวกันคือแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เหมือนกัน
ฉะนั้น ความแตกต่างตรงนี้ ตนเชื่อว่าไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ก่อให้เกิดปัญหาในชั้นกรรมาธิการแน่นอน เพราะความแตกต่างในร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลและรัฐบาลจะช่วยเสริมสร้างให้กฎหมายฉบับนี้เติมเต็มและสมบูรณ์มากที่สุดจากปัญหาที่เรื้อรังมานาน
ในส่วนของความแตกต่างของพรรคก้าวไกลและรัฐบาล แตกต่างกันที่ความผิดและโทษของผู้กระทำความผิด ย้ำว่าร่างของพรรคก้าวไกลจะมีการเอาผิดไปถึงผู้ประกอบการ นายทุนปลูกข้าวโพด โดยผู้ประกอบการจะต้องทำรายงานทั้งระบบว่าดำเนินการอย่างไร เพราะที่ผ่านมาในสภายังมีการรับรายงานถึงปัญหาฝุ่น PM2.5
ภัทรพงษ์กล่าวต่อว่า ตนเพิ่งได้รับข่าวจากวิปรัฐบาลว่าจะผลักดันร่างของฝ่ายค้านให้เข้าสู่สภาในวันพรุ่งนี้พร้อมกันให้ได้ ดังนั้น ตนหวังว่านายกรัฐมนตรีจะเห็นตรงกันในจุดนี้ ไม่มองว่าความแตกต่างจะสร้างความขัดแย้ง
ขณะที่ร่มธรรมกล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ เป็นการผลักดันของเพื่อนๆ พรรคประชาธิปัตย์ที่เห็นปัญหาเหล่านี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งมลพิษทางอากาศเป็นปัญหาใหญ่และเรื้อรังมานาน ประชาชนได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในประเทศไทย
พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีที่เราได้ผลักดันกฎหมายที่จะมาแก้ไข ควบคุมประเด็นมลพิษทางอากาศอย่างจริงจังเสียที แต่ก็เป็นที่น่าเศร้าใจ ที่ร่างกฎหมายเรื่องนี้ถูกบรรจุแค่ 4 ฉบับ และมองว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ หากร่างของพวกเราไม่ได้ถูกพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ร่าง พ.ร.บ. ของพวกเรามีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันแต่จุดประสงค์เดียวกัน ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำร่างทุกร่างมาพิจารณาร่วมกัน ประชาชนจะได้เห็นและเปรียบเทียบ
“ผมขอส่งเสียงไปยังนายกรัฐมนตรีและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ร่างที่พวกเราที่พยายามผลักดันได้นำไปสู่การพิจารณาพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเรามีจุดประสงค์ที่ดีที่จะยื่นกฎหมายฉบับนี้ในการแก้ไขมลพิษทางอากาศ เพื่อทวงคืนอากาศที่บริสุทธิ์ คืนลมหายใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน” ร่มธรรมกล่าว
ส่วนจะทันในวันพรุ่งนี้หรือไม่ ภัทรพงษ์กล่าวว่า เท่าที่ทราบเวลาช้าที่สุดคือพรุ่งนี้ตอนเช้า พร้อมย้ำว่า “ไม่อยากให้เป็นเกมสกัดขาทางการเมือง”
