×

บทสนทนาระหว่างความเร็ว ประวัติศาสตร์ และความมั่งคั่ง อ่านคุณค่าที่ซ่อนอยู่ใน ‘รถคลาสสิก’ ความงามที่กาลเวลาไม่อาจลดทอน [ADVERTORIAL]

05.07.2025
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • รถคลาสสิกคือ ‘Passion Asset’ ที่มอบผลตอบแทนสองมิติพร้อมกัน ทั้ง Emotional Return จากความสุขในการครอบครอง และ Financial Return จากศักยภาพการเติบโตของมูลค่า
  • ถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ช่วยกระจายความเสี่ยง เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นและตราสารหนี้ต่ำ โดย Knight Frank Luxury Investment Index ชี้ว่ารถคลาสสิกให้ผลตอบแทนโดดเด่นในระยะยาว โดยเฉพาะรุ่นที่หายากและเป็นที่ต้องการ อย่าง Porsche 911 หรือ Mercedes-Benz 300 SL ‘Gullwing’ ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
  • การบริหารจัดการที่พิถีพิถันคือหัวใจสำคัญ ตั้งแต่การตรวจสอบประวัติ (Provenance) ยืนยันความเป็นของแท้ (Authenticity) ไปจนถึงการคำนวณต้นทุนการครอบครอง (Cost of Ownership) ที่รวมค่าบำรุงรักษา ประกันภัยเฉพาะทาง และสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสม ซึ่งประสบการณ์การดูแลรักษานี้เองที่เป็นอีกหนึ่งผลตอบแทนอันล้ำค่า
  • มรดกที่จับต้องได้ (Tangible Legacy) ที่ส่งต่อเรื่องราว ความผูกพัน และประสบการณ์ชีวิตจากรุ่นสู่รุ่น สร้างความภาคภูมิใจและเชื่อมความสัมพันธ์ครอบครัว โดยการวางแผนมรดก (Estate Planning) ที่ดีจะช่วยให้การส่งต่อตำนานและความมั่งคั่งเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน

เสียงทุ้มลึกของเครื่องยนต์ที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณ เส้นสายโค้งมนของตัวถังที่สะท้อนความงามข้ามกาลเวลา และกลิ่นอายเฉพาะตัวของห้องโดยสารที่อบอวลด้วยเรื่องราว คือองค์ประกอบที่ทำให้ ‘รถคลาสสิก’ เป็นมากกว่ายานพาหนะ แต่คือประตูสู่โลกอีกใบที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลงใหล

 

สำหรับหลายคน รถยนต์เหล่านี้ไม่ใช่เพียง ‘รถเก่า’ ที่จอดนิ่งอยู่ในโรงรถ แต่เป็นงานศิลปะที่ขับเคลื่อนได้ เป็นบันทึกความทรงจำที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จที่จับต้องได้ มันคือการเดินทางที่พาเราย้อนกลับไปสู่ยุคแห่งความรุ่งเรืองของงานฝีมือและนวัตกรรมยานยนต์อย่างแท้จริง

 

เมื่อความหลงใหลส่วนบุคคลมาบรรจบกับวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการสินทรัพย์ การผสานความรักในยนตรกรรมคลาสสิกเข้ากับหลักการบริหารความมั่งคั่งจึงเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยความเข้าใจใน ‘คุณค่า’ ที่แท้จริง ซึ่งเป็นปรัชญาที่สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกมิติของชีวิต

 

ปรัชญานี้เองที่สอดคล้องกับ UOB Privilege Banking ซึ่งเข้าใจและให้คุณค่ากับทุก Passion & Lifestyle จึงพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมทุกความหลงใหลให้กลายเป็นความมั่งคั่ง ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ เข้ากันกับไลฟ์สไตล์ของผู้มีความมั่งคั่งทุกท่าน เช่นบทความพิเศษในซีรีส์นี้

 

ภาพ: Shang Saal / Shutterstock

 

คุณค่าที่มากกว่าตัวเลข: ทำไมรถคลาสสิกถึงครองใจ?

 

หัวใจของรถคลาสสิกคือคุณค่าที่ประเมินเป็นตัวเงินได้ยาก (Intrinsic Value) มันคือคุณค่าจากประวัติศาสตร์ของแบรนด์ นวัตกรรมในยุคนั้นๆ และเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในรถแต่ละคัน การได้ครอบครองยนตรกรรมที่เป็นตำนาน ก็เปรียบเสมือนการได้เป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกยานยนต์ไว้ในมือ

 

สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ รถคลาสสิกแต่ละคันคือภาพสะท้อน ‘บุคลิกและประสบการณ์’ ของผู้ครอบครองได้อย่างหมดจด การเลือกรถสปอร์ตเปิดประทุนจากอิตาลีอาจบ่งบอกถึงจิตวิญญาณที่รักอิสระและความเร็ว

 

ขณะที่การเลือกรถซาลูนสุดหรูจากอังกฤษอาจสะท้อนถึงความภูมิฐานและรสนิยมอันสุขุมลุ่มลึก รถยนต์เหล่านี้จึงไม่ได้ถูกเลือกจากมูลค่าตลาด แต่ถูกเลือกจากเรื่องราวที่มันสามารถบอกเล่าเกี่ยวกับตัวตนของเจ้าของได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น การเป็นเจ้าของรถคลาสสิกยังเปรียบเสมือนบัตรผ่านเข้าสู่ ‘สังคม’ และชุมชนพิเศษ ที่ซึ่งเจ้าของรถจะได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และสร้างสายสัมพันธ์กับผู้คนที่มีความชอบในสิ่งเดียวกัน ก่อให้เกิดเป็นคอนเน็กชันและมิตรภาพที่ประเมินค่าไม่ได้

 

รถคลาสสิกในมุมมอง Wealth Management: สินทรัพย์ทางใจที่สร้างมูลค่า

 

ในโลกของการลงทุน รถคลาสสิกถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘Passion Asset’ หรือสินทรัพย์ทางใจ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มอบผลตอบแทนสองรูปแบบพร้อมกัน คือผลตอบแทนจากความสุขในการครอบครอง (Emotional Return) และศักยภาพในการเติบโตของมูลค่าในอนาคต (Financial Return)

 

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญคือการเป็น ‘สินทรัพย์ทางเลือก’ (Alternative Investment) ที่มักมีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นและตราสารหนี้ต่ำ ช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอโดยรวมได้เป็นอย่างดี

 

ข้อมูลจาก Knight Frank Luxury Investment Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการลงทุนในสินทรัพย์หรู ก็เคยแสดงให้เห็นว่ารถคลาสสิกเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นในระยะยาว

 

ศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าของรถคลาสสิกนั้นมาจากความหายาก (Rarity) และความต้องการของตลาด รถยนต์รุ่นที่เป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลกและมีจำนวนจำกัด เช่น Porsche 911 (รุ่นระบายความร้อนด้วยอากาศ) ซึ่งมูลค่าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี โดยเฉพาะรุ่น Carrera RS 3.8 ที่ปัจจุบันไม่มีคันใดขายต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 32 ล้านบาท)

 

ภาพ: Josh Bryan / Shutterstock

 

หรือ Mercedes-Benz 300 SL ‘Gullwing’ ที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 55 ล้านบาท) จากราคาเดิมในยุค 1950s เพียง 6,820 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเกือบ 10,000% มักมีแนวโน้มที่มูลค่าจะสูงขึ้นตามกาลเวลา แม้ตลาดจะมีการปรับตัวบ้างในบางช่วง แต่ราคายังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าอดีตอย่างมีนัยสำคัญ

 

การบริหารจัดการ ‘สินทรัพย์’ คันงาม: ไม่ใช่แค่การลงทุน แต่คือการดูแล

 

การจะทำให้รถคลาสสิกเป็นสินทรัพย์ที่คงคุณค่าและเพิ่มมูลค่าได้นั้น ต้องอาศัยมากกว่าแค่เงินทุน แต่คือการ ‘บริหารจัดการ’ อย่างพิถีพิถัน หัวใจสำคัญคือการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดตั้งแต่การตรวจสอบประวัติของรถ (Provenance) ไปจนถึงการยืนยันว่าเป็นของแท้ดั้งเดิม (Authenticity) เพื่อให้มั่นใจว่าได้ครอบครองรถที่ถูกต้องและมีคุณค่าอย่างแท้จริง

 

ประสบการณ์ระหว่างทางของการดูแลรักษานี่เอง ที่เป็นอีกหนึ่ง ‘ผลตอบแทน’ อันล้ำค่า การได้พูดคุยกับช่างผู้เชี่ยวชาญ การตามหาชิ้นส่วนที่หายาก หรือแม้แต่การลงมือดูแลรักษารถด้วยตัวเอง คือประสบการณ์ที่สร้างความผูกพันและเติมเต็มความหลงใหลให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินโดยสิ้นเชิง

 

ภาพ: C-S / Shutterstock

 

นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงต้นทุนในการครอบครอง (Cost of Ownership) ซึ่งไม่ได้มีแค่ราคาซื้อ แต่ยังรวมถึงค่าบำรุงรักษาตามแบบฉบับดั้งเดิม ค่าประกันภัยเฉพาะทาง และการจัดหาสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมเพื่อรักษาสภาพรถให้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้คือกระบวนการ ‘บริหาร’ สินทรัพย์ให้งอกเงยไม่ต่างจากการลงทุนประเภทอื่น

 

จากรุ่นสู่รุ่น: การส่งต่อมรดกและความหลงใหล

 

คุณค่าที่ลึกซึ้งที่สุดของการครอบครองรถคลาสสิก อาจเป็นการวางแผนเพื่อ ‘ส่งต่อ’ เพราะนี่คือมรดกที่จับต้องได้ (Tangible Legacy) ที่เป็นมากกว่าแค่สินทรัพย์ทางการเงิน

 

แต่คือการส่งต่อเรื่องราว ความผูกพัน และ ‘ประสบการณ์ชีวิต’ ของผู้เป็นเจ้าของจากรุ่นสู่รุ่น สร้างความภาคภูมิใจและเป็นศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวได้อย่างลึกซึ้ง

 

การวางแผนมรดก (Estate Planning) ที่ดีจะช่วยให้การส่งต่อตำนานและความมั่งคั่งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน ทำให้เรื่องราวที่เริ่มต้นจากความหลงใหลในรุ่นเรา สามารถเดินทางต่อไปได้อย่างสง่างามในรุ่นต่อไป

 

ภาพ: Miroshnichenko Tetiana / Shutterstock

 

ท้ายที่สุดแล้ว การครอบครองรถคลาสสิกอย่างมีกลยุทธ์ คือการผสมผสานระหว่างศิลปะการใช้ชีวิตและการสร้างความมั่งคั่ง เป็นการเดินทางที่มอบความสุขระหว่างทางและสร้างมูลค่าที่ปลายทาง ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งนิยามของ ‘ความมั่งคั่ง’ ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

 

สอดคล้องกับแนวคิดของ UOB Privilege Banking ที่พร้อมจะ ‘ใส่ใจทุกเรื่องที่สำคัญสำหรับคุณ’ ทั้งในมิติความมั่งคั่งทางการเงิน และไลฟ์สไตล์ที่ช่วยเติมเต็มชีวิต

 

UOB Privilege Banking

 

ภาพ: Martyn Lucy / Getty Images

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising