ส่องตลาดรถยนต์คลาสสิกและ 5 รถยนต์สัญชาติอังกฤษราคาแรง

จากรายงานของ The Wealth Report 2023 รถยนต์คลาสสิกครองอันดับที่ 2 ของสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 25% เป็นรองแค่เพียงงานศิลปะที่สร้างผลตอบแทน 29%

เรียกได้ว่าเมื่อปีที่แล้วถือเป็นปีทองของรถยนต์คลาสสิกเลยก็ว่าได้ หลังจากยอดขายรถยนต์สะสมเคยตกต่ำในช่วงโควิด และกลับมาสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังเปิดเมือง เพราะคนโหยหาการกลับมาใช้ชีวิตอิสระอีกครั้ง

Bring a Trailer เว็บไซต์ประมูลรถยนต์คลาสสิกออนไลน์ มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบเป็นรายปีตลอดปี 2022 และภายในสิ้นเดือนธันวาคมมีการทำธุรกรรมกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งทำลายสถิติที่ 859 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 และเมื่อดู Hagerty Market Rating ที่พิจารณาจากผลการประมูล ยอดขายส่วนตัว ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และกิจกรรมตลาดรถสะสมโดยรวม พบว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2022 มีคะแนนสูงถึง 75.85 ซึ่งจัดอยู่ในประเภท ‘ตลาดขยายตัว’

ส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดคือ คนรุ่น Baby boomers เริ่มเลิกสะสมรถยนต์เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ส่วน Gen X และ Millennials ต้องการความยืดหยุ่นทางการเงิน จึงสนใจรถยนต์ยุค 80 และ 90 ที่มีราคาย่อมเยากว่ามากขึ้น รวมทั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้ซื้ออายุน้อยเริ่มเข้าสู่ตลาดและเข้าร่วมประมูลด้วยเช่นกัน โดยในภูมิภาคเอเชียและเอเชีย-แปซิฟิกส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อหน้าใหม่ที่มีอำนาจการใช้จ่ายที่สูง ทำให้ตลาดรถยนต์คลาสสิกแข็งแกร่งและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น

Silverstone Auctions หนึ่งในบริษัทประมูลชั้นนำสำหรับรถยนต์คลาสสิก คาดการณ์ว่า รถสปอร์ตจากยุคทองของมอเตอร์สปอร์ตและการแข่งขันแรลลีจะครองตำแหน่งสูงสุดในปี 2023 เช่น M3 ทั้งหมด, RS500, 190E Cosworth, Integrale Evos, Subaru รุ่นพิเศษ และ Mitsubishi P1 อย่างไรก็ตาม รถยนต์รุ่นดั้งเดิมที่ได้รับการดูแลอย่างดีตั้งแต่ยุค 60-80 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาด

ส่วน David Gooding ประธานและผู้ก่อตั้ง Gooding & Company บริษัทการประมูลรถยนต์คลาสสิกชื่อดังของอังกฤษ ได้ให้ความเห็นว่า คุณภาพ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และความหายากของรถยนต์ คือสิ่งที่ช่วยการันตีสินทรัพย์ให้รอดจากความผันผวนของตลาด โดยการซื้อรถยนต์คลาสสิกช่วยให้พอร์ตโฟลิโอมีความหลากหลาย ซึ่งโดยทั่วไปนักสะสมตัวจริงมักจะสะสมไว้และไม่ปล่อยออกสู่ตลาดง่ายๆ

โดยนี้ Gooding & Company กำลังจัดการประมูลรถยนต์คลาสสิกสัญชาติอังกฤษในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และเผยโฉมรถยนต์บางรุ่นออกมาสำหรับผู้ที่สนใจแล้ว

Aston Martin DB2/4 Spider 1954 ราคาคาดการณ์ 52.8-80.8 ล้านบาท

Aston Martin DB2/4 Spider รุ่นปี 1954 คันนี้สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับมหาเศรษฐีชื่อดัง Stanley ‘Wacky’ Arnolt นักธุรกิจนำเข้ารถยนต์ชาวอเมริกัน ตัวรถได้รับการออกแบบโดย Franco Scaglione สไตลิสต์ชั้นนำของ Bertone บริษัทออกแบบรถยนต์ชื่อดังของอิตาลี โดยคาดว่าจะขายได้ในราคาระหว่าง 1.5-2.3 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 52.8-80.8 ล้านบาท

Jaguar E-Type Fixed Head Coupe 1961 ราคาคาดการณ์ 45.7-63.2 ล้านบาท

Jaguar E-Type Fixed Head Coupe เป็นรถยนต์ขับขวามือรุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 1961 และยังได้รับการบูรณะโดยทีมงานของ Classic Motor Cars (CMC) ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการชุบชีวิตรถยนต์คลาสสิกระดับมือรางวัลในปี 2001 โดยคาดว่าจะมีราคาระหว่าง 1.3-1.8 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 45.7-63.2 ล้านบาท

Aston Martin 1.5 Litre ‘Strasbourg’ 1922 ราคาคาดการณ์ 17.7-26.6 ล้านบาท

รถยนต์โบราณ 1.5 ลิตร จาก Aston Martin ใช้สำหรับการแข่งรถยนต์ระดับนานาชาติของ French Grand Prix ในปี 1922 ที่เมืองสตราสบูร์ก และคว้าอันดับที่ 9 ในการแข่งขัน รถคันนี้เป็นสมบัติของตระกูลหนึ่งที่เก็บไว้กว่า 70 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งใน Aston Martin รุ่นแรกสุดที่มีอยู่ในการประมูลตามสถาบันต่างๆ มีราคาประมาณ 506,000-759,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 17.7-26.6 ล้านบาท

Jaguar E-Type Series 3.8-Litre Roadster 1961 ราคาคาดการณ์ 38.7-52.8 ล้านบาท

Jaguar E-Type Series 3.8-Litre Roadster รุ่นปี 1961 จากสายการผลิตแรกของ Series I Roadster รถคันนี้โด่งดังในรูปถ่ายคู่กับนักขับ Graham Hill หลังจากที่เขาได้รับชัยชนะครั้งแรกสำหรับรถรุ่นนี้ที่ Oulton Park ได้รับการบูรณะโดยทีมงาน Classic Motor Cars (CMC) เช่นกัน คาดว่าราคาจะอยู่ที่ 1.1-1.5 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 38.7- 52.8 ล้านบาท

Bentley 8 Liter Folding Head Coupé 1931 ราคาคาดการณ์ 35.1-56.2 ล้านบาท

รถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ 8 ลิตร 1 ใน 100 คันที่ Bentley เคยผลิตมา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ โดยเป็นรถยนต์ 4 ล้อที่ผลิตเร็วที่สุดในยุคนั้น เบาะ เครื่องยนต์ กระปุกเกียร์ และเพลา ส่วนใหญ่ยังใช้ของต้นฉบับเดิม คาดว่าจะทำราคาได้ตั้งแต่ 1-1.6 ล้านดอลลาร์ ราวๆ 35.1-56.2 ล้านบาท