บรรยากาศที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครภายหลังออกประกาศปิดการเข้าสักการะตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในวันนี้ (6 มกราคม) ตั้งแต่ช่วงเช้าผู้คนที่มาไหว้สักการะศาลหลักเมืองมีจำนวนเบาบางกว่าทุกวัน พ่อค้า-แม่ค้าที่จำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียน หรือสินค้าอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนี้ก็มีจำนวนน้อยกว่าทุกวัน ส่วนคนขับรถสามล้อก็มาจอดรอลูกค้าอยู่รอบๆ บริเวณนี้ โดยผู้ที่มาสักการะต้องยืนบริเวณนอกรั้วของศาลฯ
หนึ่งในแม่ค้าขายดอกไม้และสินค้าสักการะเล่าให้ THE STANDARD ฟังว่า คนมาสักการะศาลหลักเมืองน้อยกว่าช่วงปกติเป็นอย่างมาก ถ้าคิดเป็นสัดส่วนคือเหลือประมาณ 1 ใน 4 จากช่วงปกติ ส่งผลให้รายได้ทั้งของตนเองและเพื่อนแม่ค้าลดลงเป็นอย่างมาก ในขณะที่ภาระเพิ่มสูงขึ้น ทั้งลูกที่ขณะนี้โรงเรียนปิด ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อีกทั้งตนเองก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระจากภาครัฐ ไม่มีทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่ได้ลงทะเบียนคนละครึ่ง รวมถึงตนยังมีภาระเงินกู้นอกระบบ ซึ่งต้องส่งดอกเบี้ยจำนวนมหาศาล
แม่ค้ารายดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ขายอยู่บริเวณประตูข้างของศาลหลักเมือง แต่ตอนนี้บริเวณดังกล่าวก็ขายไม่ได้ จึงต้องมาตั้งโต๊ะขายอยู่บริเวณประตูหน้าศาลฯ ซึ่งต้องยอมรับว่าผิด โดยเทศกิจมาจับและปรับทุกวัน วิ่งหนีทันก็รอด วิ่งหนีไม่ทันก็ต้องไปเสียค่าปรับ
ทั้งนี้ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครจะยังปิดให้เข้าสักการะไปจนกระทั่งวันที่ 31 มกราคม 2564 เช่นเดียวกับวัดพระแก้วก็จะปิดไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคมเช่นเดียวกัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล