×

CIMBT กำไรไตรมาส 3 วูบ 47.20% เหลือ 367 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายที่เติบโตสูงกว่ารายได้และการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น

20.10.2023
  • LOADING...
CIMBT

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 2566 จำนวน 1,736.3 ล้านบาท ลดลง 38.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,811.47 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 367.41 ล้านบาท ลดลง 47.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 695.97 ล้านบาท

 

พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ไตรมาส 3 ปี 2566 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 367.41 ล้านบาท ลดลง 47.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 695.97 ล้านบาท แม้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4,284 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,269.86 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวอยู่ที่ 1,808.64 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 854 ล้านบาท ส่งผลทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2,476 ล้านบาท

 

ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริหารสุทธิ ลดลงอยู่ที่ 269 .47 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 3,165.34 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,603.67 ล้านบาท รวมถึงมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 502.48 ล้านบาท

 

ขณะที่กำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 2566 ของธนาคารอยู่ที่ 1,736.29 ล้านบาท ลดลง 38.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,811.47 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานลดลง 3.6% สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 18.6% รายได้อื่น 18.1% และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 9.7% ขณะที่มีการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น 26.5% โดยเป็นการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังของธนาคาร และเหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นอยู่

 

ทั้งนี้ อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin: NIM) สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2566 อยู่ที่ 2.6% ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2565 อยู่ที่ 2.7% เป็นผลจากต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น

 

วันที่ 30 กันยายน 2566 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 249.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 298.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% จากสิ้นปี 2565 ซึ่งมีจำนวน 289.7 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (The Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 83.6% จาก 81.2% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

 

ด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ 3.2% ลดลงเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ 3.3% อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 อยู่ที่ 111.3% ลดลงจากสิ้นปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 114.6% ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 8.8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1.5 พันล้านบาท

 

เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 กันยายน 2566 มีจำนวน 58.3 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 20.9% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ 15.5%

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X