×

ชูวิทย์ ยื่นหลักฐานกรมสรรพากร ตรวจสอบเศรษฐา-แสนสิริ กรณีภาษีที่ดิน แนะถอนตัวจากแคนดิเดตนายกฯ เพราะมีเรื่องให้เปิดโปงอีกมาก

โดย THE STANDARD TEAM
04.08.2023
  • LOADING...
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

วันนี้ (4 สิงหาคม) ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำหลักฐานประกอบด้วยเอกสารการโอนที่ดิน เอกสารการประชุม และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มอบให้ ลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กรณีที่มีการซื้อขายที่ดินติดถนนสารสิน จากบริษัท ประไพทรัพย์ จำกัด

 

โดยมีการโอนที่ดินในลักษณะแยกตามจำนวนผู้ถือหุ้น 12 คน 12 วัน ซึ่งกรณีนี้ชูวิทย์ตั้งข้อสังเกตว่า เข้าข่ายการหลีกเลี่ยงภาษี 500 กว่าล้านบาทที่รัฐควรจะได้หรือไม่ และให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเศรษฐาที่เกี่ยวข้องกับนิติกรรมอำพรางอื่นๆ ด้วย

 

ชูวิทย์กล่าวว่า การที่ตนเองออกมาพูดขณะนี้ เพราะเศรษฐากำลังจะได้รับเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงอยากถามประชาชนว่าอยากได้นายกฯ แบบไหน แบบเลี่ยงภาษีหรือไม่ แม้เศรษฐาจะระบุว่ามีหน้าที่ลงชื่ออนุมัติเพียงอย่างเดียว ไม่มีส่วนรู้เห็นในรายละเอียดการโอน ก็อยากถามว่าหากเศรษฐาได้เป็นนายกฯ และเซ็นอนุมัติโครงการบางอย่างไป จะสามารถรับผิดชอบผลที่จะตามมาได้หรือไม่ 

 

สำหรับการซื้อขายที่ดินในครั้งนี้ แม้เศรษฐาจะอ้างว่าผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการเสียภาษีแต่เพียงผู้เดียว และเป็นผู้เสนอเปลี่ยนแปลงวิธีการโอนเงินเอง แต่ในฐานะที่บริษัทแสนสิริเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับต้นๆ ของประเทศ และผ่านการซื้อขายที่ดินมามากมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าการโอนที่ดินแบบนี้เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี และเมื่อรู้แล้วว่าเป็นวิธีที่ผิดกฎหมาย แต่ยังทำตามที่ผู้ขายบอก และยังทำธุรกรรมร่วมกัน 

 

ชูวิทย์กล่าวว่า ส่วนตัวถือว่าเศรษฐามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด และเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีพนักงานกรมที่ดินมีส่วนรู้เห็น สมคบคิดให้ทำผิดแน่นอน เพราะแม้แต่ธนาคารยังไม่กล้าปล่อยกู้ให้ในช่วงแรก แต่มาปล่อยกู้ให้ช่วงหลังที่มีการมัดจำที่ดินและนำไปจำนอง

 

ชูวิทย์กล่าวยืนยันว่า ราคาที่ดินตารางวาละ 4 ล้านบาท ที่ซื้อในปี 2562 เป็นราคาที่สูงกว่าราคาประเมิน แม้ว่าราคาซื้อขายจริงอาจสูงกว่าราคาประเมิน แต่ไม่มีทางสูงถึง 4 ล้านบาทแน่นอน เชื่อว่าเป็นการปั่นราคาที่ดิน ซึ่งคดีนี้ไม่มีอายุความ มีโทษทั้งปรับและจำคุก ต่างกรรมต่างวาระ เมื่อมีการโอนเงินให้ 12 คน 12 วัน ก็จะต้องได้รับโทษทั้ง 12 กรรม

 

จากนั้น กิตติพล สิงห์ทน หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ รักษาราชการแทนเลขานุการกรมสรรพากร เป็นผู้แทนรับหนังสือแทนอธิบดีฯ เปิดเผยว่าจะขอไปตรวจสอบเอกสารทั้งหมดก่อนว่าเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ ส่วนจะเรียกเศรษฐาหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงหรือไม่ ต้องดูเอกสารหลักฐานที่ชูวิทย์ส่งมาก่อน 

 

จากนั้นชูวิทย์กล่าวต่อว่า ขอแนะนำให้เศรษฐาถอนตัวจากการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีคุณสมบัติและไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ โดยพรรคเพื่อไทยยังเหลือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก 2 คน คือ แพทองธาร ชินวัตร และ ชัยเกษม นิติเสรี ซึ่งหากเศรษฐายังดึงดันที่จะเป็นนายกฯ ต่อไป ตนเชื่อว่าจะมีปัญหาแน่นอน เพราะตนยังมีเรื่องที่ต้องเปิดโปงเศรษฐาอีกมาก

 

ซึ่งหลังจากนี้ตนจะไปยื่นเอกสารหลักฐานให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบพฤติกรรมของบริษัทแสนสิริว่ามีพฤติกรรมผิดธรรมาภิบาลหรือไม่

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising