วันนี้ (15 ตุลาคม) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมตัวแทน สส. พรรคเพื่อไทย เปิดเผยความรู้สึกเสียใจต่อกรณีที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ต้องตกไปในการโหวตวาระแรกของรัฐสภา โดยระบุว่าแม้ร่างของพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เนื่องจากได้เสียง สว. เพียง 60 เสียง ขาดไป 6 เสียง
ชูศักดิ์กล่าวว่า พรรคได้พยายามอย่างสุดความสามารถ และยึดโยงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและหลักเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยยืนยันว่าร่างของพรรคเพื่อไทย มีความเป็นกลางที่สุด เปิดโอกาสให้องค์กรต่าง ๆ เข้าร่วมเป็น สสร. และเป็นร่างที่สมควรได้รับการสนับสนุนมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ชูศักดิ์เชื่อว่าสาเหตุที่ร่างพรรคเพื่อไทยตกไปเป็นเพราะเหตุผลทางการเมือง และไม่ได้ทำข้อตกลง MOA เหมือนกับอีก 2 ร่างที่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. ทำให้ได้รับเสียงเกิน 1ใน 3 และทำให้ผ่านเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ
แม้ร่างของพรรคเพื่อไทยจะตกไป แต่พรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจโหวตสนับสนุนร่างหลักของพรรคประชาชน เนื่องจากมีความใกล้เคียงกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็น สสร. เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นประชาธิปไตย
ชูศักดิ์ยืนยันว่า ถึงแม้ผลจะเป็นเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยจะให้ความร่วมมือและส่งตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมาธิการอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้สำเร็จ พร้อมฝากให้พรรคประชาชนติดตามตรวจสอบไตร่ตรองให้ดี โดยเฉพาะรูปแบบของ สสร. ที่อาจต้องมีการผสมผสานกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย และอาจมีการแปรญัตตินำร่างพรรคเพื่อไทย ไปประกอบในวาระที่ 2 เพื่อให้เป็นทางออก
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความกังวลเรื่องเวลาที่จำกัดในการทำประชามติ ซึ่งอาจทำให้มีเวลาในการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่เกิน 2 เดือน
ส่วนการที่ ร่างของพรรคประชาชน จะเป็นร่างหลัก อาจมีการแก้ไขในหมวดที่ 1และหมวดที่ 2 นั้น ตามกฎหมายไม่ได้มีข้อห้าม แต่การแก้จะต้องมีการทําประชามติ ซึ่งส่วนตัวมองว่าจะไม่มีการแก้ไข และกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่มีการระบุไว้ เพราะเกรงว่าจะไม่มีทางออก
ทั้งนี้ หากจะสอบถามศาลรัฐธรรมนูญว่าร่างของพรรคประชาชนจะขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะต้องมีมติจากที่ประชุมรัฐสภาเท่านั้น