วันนี้ (30 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระเพื่อพิจารณารายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการในวันที่ 3 ตุลาคมนี้
ชูศักดิ์ระบุว่า เพื่อให้เป็นไปได้ดีที่สุดและละมุนละม่อมที่สุด ควรนำเรื่องทั้งหมดไปหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน เพื่อให้ตกผลึก แต่ท้ายที่สุดแล้วพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไร พร้อมจะเสนอร่างกฎหมายด้วยหรือไม่ ซึ่งที่ต้องทำเช่นนี้เพราะพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบสำคัญในสภา ฉะนั้นหากเราไม่ฟังกัน เมื่อมีการเสนอและพิจารณากันแล้วก็จะคล้ายกับเรื่องรัฐธรรมนูญที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ
ด้วยเหตุนี้จึงได้ปรึกษา วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อยากให้เลื่อนวาระออกไป เพื่อรอฟังความคิดเห็นของหัวหน้าพรรคการเมืองให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งไม่น่าสายเกินไป
สำหรับกรณีที่มีบางพรรคออกมาบอกว่าไม่ขอรวมการนิรโทษกรรมความผิดในมาตรา 112 นั้น ชูศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนั้นต้องให้เขาตกผลึกมาว่าเป็นเช่นนี้ เวลามาพิจารณากันก็จะเห็นภาพและตัดสินใจได้ถูก ซึ่งทราบดีว่าบางพรรคต้องการและบางพรรคไม่ต้องการ จึงคิดว่าฟังหัวหน้าพรรคการเมืองดีที่สุดว่าเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ เพื่อจะเดินหน้าต่อไปได้ถูก
ทั้งนี้ ชูศักดิ์ได้มอบหมายให้วิสุทธิ์เป็นคนทำหน้าที่ โดยอาจจะพูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรีเพื่อให้นัดหัวหน้าพรรคมาพูดคุย และในการพูดคุยอาจจะรวมเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปด้วย เพราะถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จำเป็นต้องคุยกัน
ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ในวุฒิสภาวันนี้ มีแนวโน้มสูงว่าจะกลับไปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ชูศักดิ์กล่าวว่า เราก็รับทราบอยู่ แต่หากท้ายสุดเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ผิดจากไทม์ไลน์ที่เราวางไว้
ขณะที่จะมองว่าเป็นเกมสกัดกั้นไม่ให้รัฐบาลทำตามนโยบายให้สำเร็จหรือไม่ ชูศักดิ์ระบุว่า ไม่ได้มองเช่นนั้น เป็นเรื่องของความเห็นต่างในเชิงกฎหมาย คงไม่มีรัฐบาลมาสกัดกั้นรัฐบาลกันเอง