วันนี้ (23 พฤษภาคม) นิตยสาร TIME เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว สส. ปทุมธานี พรรคก้าวไกล หลังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ผู้นำแห่งยุคสมัยต่อไปของ TIME’s Next Generation Leaders 2024 IN PARTNERSHIP WITH ROLEX
ชลธิชากล่าวกับ TIME ว่า ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา เธอถูกแจ้งข้อกล่าวหาใน 28 คดี รวมถึงคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ 2 คดี นั่นหมายถึงว่าเธออาจต้องถูกโทษจำคุกระหว่าง 3-15 ปี
“ดิฉันไม่เคยอยากเป็นนักการเมืองมาก่อนในชีวิต เพราะดิฉันไม่ต้องการอยู่ในแสงไฟ แต่ดิฉันจำได้ว่าในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเยาวชนเมื่อปี 2563 พวกเราลงสู่ท้องถนนเป็นพันกว่าคน และพูดถึงประเด็นที่อ่อนไหวของสังคมไทยคือการปฏิรูปสถาบันฯ” ชลธิชากล่าว
ชลธิชายังระบุด้วยว่า อาจเป็นเพราะความโกรธแค้นที่อยู่ในใจ ช่วยผลักดันให้ตัดสินใจว่าตนเองต้องเข้ามาสู่อำนาจไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่เพื่อต้องการให้รัฐสภาเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่จะสามารถพูดคุยกันได้ในทุกประเด็น
ชลธิชาบอกกับ TIME ว่า การเป็นผู้นำคือ ต้องอำนวยความสะดวกให้ทุกคนที่มีความฝันเดียวกัน เป้าหมายเดียวกัน รวมทั้งสามารถเชื่อมสัมพันธ์และต่อสู้เคียงข้างไปด้วยกันได้ในระยะยาว โดยต้องมั่นใจว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคมนี้ ชลธิชามีนัดฟังคำพิพากษาศาลจังหวัดธัญบุรี ในคดีหมายเลขดำที่ อ. 1971/2565 จากการชุมนุมที่หน้าศาลจังหวัดธัญบุรีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง คดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 10 คน ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ชลธิชาถูกกล่าวหาเพิ่มตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพียงคนเดียว เนื้อหาคำปราศรัยเกี่ยวข้องกับการออก พ.ร.บ.ระเบียบราชการในพระองค์ 2560 คดีนี้มีนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยระหว่างเดือนพฤษภาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2567