วันนี้ (24 กรกฎาคม) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่า มีคณะทำงานประสาน ส.ว. ที่คุ้นเคยและรู้จักช่วยกันในการดำเนินการ ไม่ได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคเพื่อไทยเหมือนพรรคการเมือง
ส่วนการพูดคุย 8 พรรคร่วมรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (25 กรกฎาคม) คือการนำเอาการบ้านที่มอบให้พรรคเพื่อไทยไปดำเนินการมาพูดคุยกัน โดยสิ่งที่เราจะนำเสนอคือ 1. คำตอบจาก ส.ว. ว่าเขามีความเห็นอย่างไร ซึ่ง ส.ว. ไม่ได้ยึดติดที่ตัวบุคคล แต่มีเจตนารมณ์ตามที่เคยสะท้อนไปแล้วในที่ประชุมเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม รวมถึงจะมีเงื่อนไขอย่างไรเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นได้ 2. คำตอบจาก ส.ส. ขั้วรัฐบาลเดิม อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะสรุปข้อเสนอของ ส.ว. ให้เสร็จภายในวันนี้ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคในวันพรุ่งนี้
เมื่อถามถึงข้อเสนอของ กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ที่ให้รออีก 10 เดือนให้ ส.ว. ชุดนี้หมดวาระ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ก็เป็นข้อเสนอหนึ่งที่ได้รับการวิเคราะห์และวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร แต่เราต้องดูในรายละเอียดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เราคาดหวังหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้มันก็น่าพิจารณาทดลองทำ แต่ระบบรัฐสภาเป็นเสียงข้างมาก อยู่ภายใต้เสียง 749 เสียง แม้เราเสนอไปหากเสียงข้างมากใน 749 เสียงไม่ยอม แทนที่เราจะได้แต่กลายเป็นการส่งเสริมมอบอำนาจให้คนอื่น มันมีสิ่งแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ตลอด ในการเมืองเราคิดแบบโลกสวยไม่ได้
นพ.ชลน่านยืนยันว่า ถ้าเราไม่แพ็กกันแน่นอยู่แบบนี้แล้วคนอื่นไม่มีวิธีคิดเหรอ เขาก็มีวิธีคิด ถ้าเขารวมเสียงกันได้ในที่ประชุมรัฐสภา เราทำอะไรได้ เราก็ต้องยอมรับ
เมื่อถามถึงข้อเสนอของ ส.ว. ว่าหากไม่พร้อมควรเลื่อนการประชุมออกไปก่อนนั้น นพ.ชลน่านระบุว่า การเลื่อนประชุมเป็นอำนาจของประธานรัฐสภาและขึ้นอยู่กับความเห็นของวิปทั้ง 3 ฝ่าย อย่างพรรคเราก็เป็นแค่ความเห็น 1 ใน 3 และเพื่อไทยก็ยังไม่ได้คุยถึงเงื่อนไขการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะตอบทิศทางได้น่าจะเป็นหลังการพูดคุยกันของ 8 พรรคร่วมในวันที่ 25 กรกฎาคม แต่ตอนนี้ยืนยันว่าทุกอย่างที่ดำเนินการยังคงเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ เพราะเรารับโจทย์มาว่าเอาวันที่ 27 กรกฎาคมเป็นตัวตั้ง เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด แต่ประธานรัฐสภานัดประชุมวิป 3 ฝ่ายก่อนที่ 8 พรรคจะมีมติ ดังนั้นผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องยึดตามที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยคิดอย่างไรกับการตั้งรัฐบาลพลิกขั้ว นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะคิดอย่างไรไม่ได้มีประเด็น สิ่งสำคัญคือ 8 พรรคต้องพูดออกมา เราเป็นแค่หนึ่งในองค์ประกอบ เรามีสิทธิเสนอได้ แต่ที่ประชุมเห็นอย่างไรก็ต้องว่ากัน เราเคารพการตัดสินในที่ประชุม 8 พรรคร่วมและโอกาสของประเทศเข้ามาประกอบกัน
ส่วนกรณีหากพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นพ.ชลน่านระบุถึงกรณีหากหมดปัญญาจะส่งไม้ต่อให้พรรคอันดับ 3 ว่า ตนไม่อยากขยายความ เดี๋ยวจะตีความผิดอีก เนื่องจากมีการเสนอในหลายทางเลือก ตนเพียงแค่บอกว่าเป็นทางเลือกหนึ่งเท่านั้น ส่วนจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นเราไม่รู้ และตนก็บอกชัดว่าจะเป็นการมอบอำนาจให้เสียงข้างน้อย
เมื่อถามต่อว่า ต้องให้จบที่พรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราจะพยายามในฐานะแกนนำภายใต้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกระแสในทวิตเตอร์ที่มีการย้อนคำพูดต่างๆ ที่เคยพูดไว้กับประชาชนแล้วนำกลับมาโจมตีพรรคเพื่อไทยนั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา อะไรเป็นความจริงที่เกิดขึ้น ปัจจุบันก็ยังอยู่ และเป็นเรื่องความชอบธรรมที่จะถูกทวงถาม และเราเองก็มีหน้าที่ตอบคำถาม แต่ต้องดูจังหวะเวลาและโอกาสที่เกิดขึ้น จะตอบเป็นจังหวะๆ ไป
ทั้งนี้ นพ.ชลน่านกล่าวย้ำว่า พรรคการเมืองที่หารือไปทั้งหมด 5 พรรค มีพรรคการเมืองเดียวที่ยอมรับเงื่อนไขหากมีพรรคก้าวไกลอยู่ในสมการ คือพรรคชาติพัฒนากล้า
