เวลานี้ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาคนวัยเกษียณไร้เงินออมที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีจำนวนผู้สูงอายุราวๆ 12 ล้านคนแล้ว เดือนหนึ่งรับ 600 บาท ปีหนึ่งราว 7,200 บาท คำนวณคร่าวๆ รัฐบาลใช้งบประมาณสำหรับดูแลเบี้ยชราสูงถึงปีละหลายแสนล้านบาท
ในระยะข้างหน้า คนไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าในที่สุดแล้วระบบงบประมาณของไทยอาจไม่มีทางจะรับไหว!!! ที่น่ากังวลยิ่งกว่า ใครที่คิดว่าพอถึงวัยเกษียณแล้วจะมารอหวังน้ำบ่อหน้า คุณอาจเหลือแค่ก้นบ่อหรือน้ำในบ่อเหือดแห้งไปแล้วก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
จะดีกว่าไหม ‘ถ้าคุณวางแผนทางการเงินเพื่ออนาคตของตัวเอง’ ให้เป็นกองหลักที่อุ่นใจ มั่นคงและมั่งคั่งในอนาคต ส่วนเงินเบี้ยชราที่คาดว่าจะได้จากรัฐบาลก็เป็นกองเสริมที่รอลุ้นกันไป
วันนี้ผมจะมาชวนคุยว่า ทำอย่างไรถึงจะปั้นเงินออมที่มีอยู่น้อยๆ ในเวลานี้ ให้สามารถออกดอกผลกำไรเห็นตัวเลขหลักล้านๆ บาทขึ้นไปในชีวิตวัยเกษียณ ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นวิธีทำเงินให้ชนะเงินเฟ้อได้อย่างไร และตอนนี้จะลงทุนมุมไหนของโลกกันดี พร้อมกับอัปเดตข่าวดีจากหุ้นจีนมาฝากด้วยครับ
วิธีให้เงิน ‘ทำงาน’ ชนะเงินเฟ้อ พร้อม DCA พาเข้าเส้นชัย
ถ้าผมจะให้คุณจินตนาการถึงการมีเงิน 10 ล้านบาทตอนเกษียณ มันดูเป็นเงินก้อนใหญ่เหมือนกันนะครับ
หลายคนบอกไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไรดี ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาแค่ไหน หรืออาจคิดว่าเรื่องการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัวมากๆ ไปเลย
ทั้งๆ ที่เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากๆ
ผมเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่รู้ดีว่า…‘เงินเฟ้อ’ จะทำให้ ‘เงิน’ เสื่อมมูลค่าลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่จะทำอย่างไร? ให้ ‘เงิน’ ของเรา ‘ชนะเงินเฟ้อ’ ได้ตลอดเวลา เสี่ยงต่ำ แถมโอนย้ายไปลงทุนได้สะดวกด้วย! เป็นโจทย์ที่เรากำลังคุยกันครับ
และที่สำคัญ วิธีนี้คุณต้องลอง! ลงทุน ‘เสี่ยงต่ำ’ ผลตอบแทนปัง! กว่าดอกเบี้ยเงินฝากแน่นอนครับ ด้วยตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ที่มองดูไร้ความหวัง ผมหนีไม่พ้นเรื่องของการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และผมอยากให้คนมองหาทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนที่กว้างไกลมากขึ้น เพราะเครื่องมือการออมการลงทุนในประเทศไทยทุกวันนี้คาดหวังที่จะสร้างผลตอบแทนได้ยากในระยะยาว
คุณอาจจะตั้งคำถามว่า เวลานี้ยังมีหุ้นโลกคุณภาพดีมีอนาคตเติบโตและราคาถูกอยู่มุมไหนให้ลงทุนได้อีกบ้าง?
ส่วนตัวผมจะชอบเฟ้นหาของดีลงทุนในช่วงวิกฤตครับ ผมเชื่อว่าที่ไหนมีวิกฤตเกิดขึ้น มักมีโอกาสดีๆ แฝงอยู่ และสิ่งที่ Predictive AI ของ Jitta Wealth ประมวลผลออกมาแล้วว่า ตลาดหุ้นที่น่าลงทุนและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีในอนาคตอยู่ที่จีนและฮ่องกง
ของดีรออยู่ หุ้นจีนหั่นราคาลง 50% ลงทุนรับอานิสงส์มาตรการฟื้นอสังหา
หลายปีมานี้จีนประสบปัญหาวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ และวันนี้เริ่มเข้าสู่จุดจบของวิกฤตแล้วครับ ผมจึงมองตลาดหุ้นจีนเป็นขุมทรัพย์อีกแหล่งที่เชียร์ลูกค้าให้ลงทุนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
อย่าเพิ่งเบื่อผมนะครับ มาถึงวันนี้ผมก็ยังคงเชียร์หุ้นจีนเหมือนเดิม ตอนนั้นหุ้นจีนหั่นราคาลงถูกมากๆ และมาถึงเวลานี้เริ่มเห็นกูรูและนักวิเคราะห์หลายคนหันกลับมาเชียร์หุ้นจีนกันแล้ว ซึ่งลูกค้าที่เชื่อและลงทุนใน Jitta Ranking หุ้นจีนตามที่ผมบอกไปตั้งแต่ต้นปีถึงเวลานี้ ผลตอบแทนขึ้นมา 13.16% นะครับ
หุ้นจีนยังมีข่าวดีๆ อีกมาก วันนี้ผมมีมาอัปเดตให้ด้วยครับ หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เงินลงทุนจากต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้า ‘หุ้นจีน’ จนทำให้ตลาดหุ้นจีนบวกต่อเนื่อง หลังจากที่เกิดกระแสเทขายหุ้นจีนต่อเนื่องกว่า 6 เดือนก่อนหน้า
ตลาดหุ้นจีนปีนี้คึกคักมาก ตอกย้ำว่ามาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นของจีนเวิร์กครับ การกลับตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปีนี้ยิ่งทวีความมั่นใจให้นักลงทุนรายย่อย และดันราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยัง ‘ถูก’ อยู่ หากลงทุนตอนนี้ก็ยังทัน
สะท้อนจากดัชนีหุ้นจีน CSI 300 ที่รวมดัชนี SSE และ SZSE ส่งสัญญาณปรับตัว P/E ต้นปีอยู่ที่ 10.7 เท่า แต่ตอนนี้ขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 11.4 เท่า แต่ราคาก็ยังถูกอยู่เมื่อเทียบกับปี 2009 ที่ P/E เคยสูงขึ้นไปถึง 29 เท่า!
หรือจะมองดูหุ้นจีนในตลาดหุ้นฮ่องกงผมว่ายังแสนถูก สะท้อนจาก P/E ยังอยู่ที่ระดับ 9.5 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2009 พีคที่สุดที่ P/E 20.5 เท่า ยังลดลงถึง 50%! ถือเป็นโอกาสดีๆ ที่นักลงทุน VI รอคอย
และถ้าดูย้อนประวัติศาสตร์ ‘วิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน’ แพตเทิร์นเดิมกำลังกลับมา เมื่อปี 2016 จีนประสบปัญหาอสังหาล้นตลาด ทำให้รัฐบาลจีนพยายามหาทางแก้ไข จนออกมาเป็นมาตรการเงินสนับสนุนกว่า 3 ล้านล้านหยวน
ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี CSI 300 +19.69% (ปี 2016-2019) และจำนวนอสังหาที่ล้นตลาดก็ลดลงกว่าครึ่ง! ภายในช่วงเวลาเดียวกัน
แพตเทิร์นนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง! วิกฤตอสังหา ‘China Evergrande’ กำลังคลี่คลาย จากการประชุม Politburo ครั้งล่าสุด จีนออกมาประกาศจำนวนตัวเลขอสังหาที่ล้นตลาดในปัจจุบัน และรัฐบาลประกาศมาตรการช่วยเหลืออีกครั้ง เตรียมออกขายพันธบัตรพิเศษระยะยาวมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 4.7 ล้านล้านบาท
จีนเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วครับ เพราะเมื่อเทียบกับอดีตแล้ว มีโอกาสสูงมากที่ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์จะคลี่คลาย และตลาดหุ้นจะปรับบวกเพิ่มขึ้น
จีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองแค่สหรัฐฯ ขณะที่รัฐบาลจีนชูธงนำประเทศก้าวสู่เทคโนโลยีและเน้นการเติบโตเชิงคุณภาพ ปัจจุบันเสาหลักเศรษฐกิจนอกจากภาคการผลิต ภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังมีภาคเทคโนโลยีที่ค้ำจุนการเติบโตในระยะยาว แม้ช่วงที่ผ่านมาระหว่างทางของจีนจะมีวิกฤตในภาคต่างๆ รุมเร้า แต่ภาคธุรกิจจีนก็ไม่ได้หยุดพัฒนา จนวันนี้จีนขึ้นเป็นเจ้าตลาดรถ EV มีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่งเป็นเจ้าตลาดพลังงานสะอาด
ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ตลาดหุ้นจีนในปีนี้ก็คึกคักขึ้นเหมือนฟ้าหลังฝน ยิ่งมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเข้ามาแบบนี้ก็เหมือนติดปีกเลยครับ
เจพีมอร์แกนวิเคราะห์ ‘ตลาดหุ้นจีน’ กำลังกลับมาสดใส และเชื่อมั่นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลออกมาตรการฟื้นอสังหาริมทรัพย์
โดย เวนดี หลิว หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดหุ้นเอเชียและจีนจากเจพีมอร์แกน มีความเห็นว่า ตลาดหุ้นจีนถือเป็นตลาดที่มีราคาถูกมากที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยดึงดูดแรงซื้อของนักลงทุน เชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นจีนในปี 2024 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2023 โดยส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
นับตั้งแต่ต้นปี 2024 จนถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ดัชนี CSI 300 ตลาดหุ้นจีนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน และนับตั้งแต่ต้นปี 2024 พุ่งขึ้นแล้ว 4.9% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนพยายามที่จะพลิกฟื้นตลาดหุ้นจีนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยการใช้มาตรการต่างๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาด รวมทั้งออกคำเตือนว่าจะใช้บทลงโทษกับนักลงทุนที่มีพฤติกรรมปั่นหุ้น
บรรดานักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนแสดงมุมมองบวกดังกล่าวต่อตลาดหุ้นจีน หลังจากที่ อู๋ ชิง ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) คนใหม่ กล่าวว่า CSRC มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิรูปฝั่งอุปทาน (Supply Side Reforms) ในตลาดหุ้นจีน
ภายใต้การบริหารของอู๋นั้น CSRC ออกกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับบริษัทที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นจีน รวมทั้งวางกฎระเบียบที่รัดกุมเกี่ยวกับการถอดหุ้นออกจากตลาด และยังออกคำเตือนถึงบริษัทต่างๆ ที่วางนโยบายอย่างไร้ประสิทธิภาพ
ส่วนมุมมองที่มีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน เจพีมอร์แกนมีมุมมองเป็นบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจากรัฐบาลจีนออกมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ค้างสต็อก และการที่ธนาคารกลางจีนจัดหาเงินจำนวน 3 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.55 ล้านล้านบาทให้กับบรรดาสถาบันการเงิน เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจเป็นทุนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ค้างสต็อก
เพราะฉะนั้น หากใครถามว่าจะลงทุนอะไรที่ผลตอบแทนดีในระยะยาว ผมยังจะตอบว่า ‘หุ้นจีน’ ครับ และตอนนี้ยังพอมีโอกาสลงทุนธีมตลาดหุ้นจีน หุ้นเทคโนโลยีจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง รอรับอานิสงส์เศรษฐกิจจีนเติบโต ตลาดหุ้นมีสัญญาณพลิกฟื้นกลับมา รอลุ้นพอร์ตโตรับการกลับมาของตลาดหุ้นจีนกันครับ
เลือกลงทุนหุ้นจีน เงินน้อย อนาคตไกล
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจอยากลงทุนหุ้นจีน แต่ยังมีความคิดว่าการออกไปลงทุนหุ้นต่างประเทศเป็นเรื่องยากและต้องใช้เงินจำนวนมาก ปัจจุบันก็มีเครื่องมือและทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ก็สามารถเข้าถึงการลงทุนหุ้นทั่วโลกตัวท็อปๆ กัน แถมอนาคตไกล ผมขอยกตัวอย่าง iShares MSCI China ETF หรือ MCHI ที่ลงทุนหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางในตลาดทุนจีน รวมทั้งสิ้น 700 กว่าหุ้น หรือประมาณ 85% ของหุ้นทั้งหมดในตลาดจีน ไม่ว่าจะเป็น A-Shares, B-Shares, H-Shares, Red-Chips, P-Chips หรือ US-ADR ซึ่งเป็นหุ้นจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาด Nasdaq ซึ่งเป็น ETF ที่ Jitta Wealth เลือกมาให้นักลงทุนลงทุนผ่าน Thematic หุ้นจีนนั้นตั้งแต่ต้นปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นแล้ว 6.93% เงินแค่ 10,000 บาท และ DCA ครั้งละ 1,000 บาท ก็ได้เป็นเจ้าของ Tencent, Alibaba, Xiaomi หรือ Ping An และหุ้นจีนบิ๊กแคปอีกมากมาย
การเริ่มต้นลงทุนต่างประเทศทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ที่สำคัญเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเกษียณได้ง่าย ไม่ต้องเป็นภาระใคร โดยเฉพาะหุ้นจีนที่จะว่าไปแล้ว ไทย-จีนก็มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดแนบแน่นมานาน เหมาะสมที่จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการสร้างผลตอบแทนระยะยาว ให้คนไทยในฐานะคนคุ้นเคยได้ และหากพิจารณาในด้านของการเติบโตในอนาคตแล้ว ยิ่งมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสมที่จะให้คุณจัดพอร์ตสร้างความสมดุล แล้วนั่งมองเงินลงทุนให้หมุนไปๆ เชื่อได้ว่าพอร์ตคุณจะโตแล้วโตอีก โตต่อถึงเป้าหมายแน่นอน
ยิ่งให้เงินทำงานอย่างมีวินัยการเงินด้วย DCA ทุกเดือน เปรียบเหมือนใส่น้ำมันเครื่อง เร่งพอร์ตเติบโต และช่วยย่นระยะเวลาในการลงทุนได้อีก เพื่อไปถึงเส้นชัยได้ไวขึ้น การปั้นเงินสิบล้านก็แค่เอื้อมแล้ว ถ้าเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้