ดัชนีตลาดหุ้นจีนดิ่งหนักราว 5% ในวันนี้ (25 เมษายน) หลังรัฐบาลตัดสินใจล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งบางส่วน และอาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างหนัก
ดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงหลักของตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดปรับตัวลงเกือบ 5% ถือเป็นจุดต่ำสุดนับแต่เดือนเมษายน 2020 และเป็นการล้างภาพของการฟื้นตัวในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาไปจนหมด ขณะเดียวกันค่าเงินหยวนยังอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 17 เดือน จากความกังวลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนไหลออก
เช่นเดียวกับดัชนี Shenzhen ร่วงลงมาถึง 6% ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 5.1%
ปัจจัยกดดันหลักที่เกิดขึ้นต่อตลาดหุ้นจีนในขณะนี้มาจากการแพร่ระบาดของโควิด ทั้งในพื้นที่ของเซี่ยงไฮ้ที่แย่ลงกว่าเดิมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และล่าสุดรัฐบาลได้ทดลองล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งในบางส่วน ทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก เนื่องจากปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของจีนที่มีประชากรกว่า 20 ล้านคน
Kevin Li ผู้จัดการพอร์ตลงทุนของ GF Asset Management กล่าวว่า ตอนนี้มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของโควิดในปักกิ่งซึ่งมีโอกาสจะแย่ลงแบบเซี่ยงไฮ้ พร้อมกับการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้อาจจะต่ำกว่า 5.5% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลประเมินไว้ เป็นผลจากการล็อกดาวน์ซึ่งกระทบต่อภาคการผลิต
นอกจากนี้ จากนโยบาย Zero COVID ซึ่งจีนจะยังไม่เปิดประเทศจนกว่าโควิดจะกลายเป็นศูนย์ ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เช่นกัน โดยเฉพาะความต้องการบริโภคน้ำมันที่หดตัวอย่างหนัก
ด้าน Timothy Moe หัวหน้านักกลยุทธ์ ฝ่ายตลาดทุนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Goldman Sachs กล่าวว่า ไม่น่าแปลกใจที่ตลาดจะกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในขณะนี้ เพราะค่อนข้างชัดเจนว่าส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงกระทบต่อกำไรของหลายธุรกิจ
ขณะที่นโยบายช่วยเหลือและสนับสนุนต่างๆ กำลังจะดำเนินไป โดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่นโยบายเหล่านี้คงไม่สามารถช่วยได้มากหากต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP