วานนี้ (17 ธันวาคม) สืบเนื่องจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ตำรวจไซเบอร์ 1) ทำการสืบสวนเว็บไซต์การพนันรายใหญ่ FAFA789 พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีการปกปิดเส้นทางการเงิน ใช้ระบบการเงินที่ได้จากการพนันผ่านระบบ Payment Gateway เถื่อน โดยใช้บัญชีที่รับเงินหน้าเว็บไซต์และบัญชีจ่ายเงินเป็นบัญชีม้าและบัญชีบริษัทผี (Ghost Company) จากนั้นจะรวมเงินไปยังบัญชีปั่นเงิน ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดโดยบริษัทผีเช่นกัน ทำให้เป็นการยากต่อการสืบสวนเชื่อมโยงไปถึงผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง
หลังใช้เวลาสืบสวนนานกว่า 6 เดือน จนกระทั่งพบเส้นเงินเชื่อมโยงไปยังกลุ่มคนไทยจัดหาบัญชีม้าและบริษัทผี และเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มฟอกเงินชาวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักในการทำ Gateway เถื่อนนี้
ตำรวจไซเบอร์ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับบุคคลจำนวน 27 หมายจับ โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ ดังนี้
- กลุ่มบัญชีม้า หน้าเว็บไซต์ และจ่ายเงิน จำนวน 6 หมายจับ 6 บัญชี
- กลุ่มบัญชีบริษัทผี ทำหน้าที่ Gateway จำนวน 5 หมายจับ 7 บัญชี
- กลุ่มจัดหาบริษัทผี บัญชีม้า จำนวน 8 หมายจับ 10 บัญชี
- กลุ่มฟอกเงิน จำนวน 8 หมายจับ 16 บัญชี
รวมทั้งหมด 27 หมายจับ 39 บัญชีธนาคาร แบ่งเป็นชาวต่างชาติ 7 ราย (จีน-มาเลเซีย 5 ราย และกัมพูชา 2 ราย)
ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ 1 ได้เปิด Operation Gateway Laundering จีน-มาเลเซีย EP.1 โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมายหลัก 5 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 ราย
- หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี จับกุมบุคคลตามหมายจับ 2 รายคือ ปัทมา และ KIA LIM HAO สัญชาติมาเลเซีย
- คอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ จับกุมบุคคลตามหมายจับคือ เสาวลักษณ์
- คอนโดแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จับกุมบุคคลตามหมายจับคือ เบญพรรณ และ บรรลือศักดิ์
- บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 4 อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จับกุมบุคคลตามหมายจับคือ อธิป
- บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 2 อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ จับกุมบุคคลตามหมายจับคือ หนึ่งฤทัย
นอกจากนี้ยังทำการตรวจสอบกิจการที่เชื่อว่าได้จากการฟอกเงิน จำนวน 2 กิจการ คือ
- บ่อตกกุ้งแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 122
- บาร์แห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตรวจยึดทรัพย์ได้ 34 รายการ ดังนี้ เงินสด 4 ล้านบาท, รถยนต์ 2 คัน, นาฬิกา Patek Philippe รุ่น 5726 จำนวน 1 เรือน, นาฬิกา Rolex Rootbeer 1 เรือน, สร้อยทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ พระเลี่ยมทอง 9 รายการ, กระเป๋าแบรนด์เนม 14 รายการ, แว่นตา 2 รายการ และสุราราคาแพง 1 รายการ มูลค่ารวม 13,313,000 บาท
ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจสีเทา รวมถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ จะหลบเลี่ยงการสืบสวนจับกุมโดยใช้ระบบการเงินจาก Payment Gateway ที่ไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ตัดตอนกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงออกไป