จงหนานซาน ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจชื่อดังของจีนวัย 84 ปี และผู้นำทีมผู้เชี่ยวชาญควบคุมและป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (2019-nCoV) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลจีน ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่สำนักข่าว Xinhua วานนี้ (28 มกราคม) ระบุว่า วิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนา อาจถึงจุดสูงสุดในอีก 7 ถึง 10 วันข้างหน้า และหลังจากนั้นจะไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มแบบก้าวกระโดดอีก
“มันยากที่จะประเมินแน่ชัดว่าเมื่อใดที่การระบาดจะถึงจุดสูงสุด แต่ผมคิดว่า ภายใน 1 สัปดาห์ หรือราว 10 วัน มันจะถึงระดับสูงสุด จากนั้นจะไม่มีการเพิ่มในระดับสเกลใหญ่ๆ อีก” จงกล่าว
นอกจากนี้จงซึ่งเคยมีประสบการณ์รับมือวิกฤตแพร่ระบาดของโรคซาร์ส (SARS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรงที่ระบาดในจีนและทั่วโลกระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2002 – กรกฎาคม 2003 แสดงความเชื่อมั่นว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะไม่ยืดเยื้อเท่ากับซาร์ส เนื่องจากรัฐบาลจีนเริ่มใช้มาตรการรับมือที่เข้มข้น นับตั้งแต่การระบาดระลอก 3 เริ่มต้นขึ้น
“ในปีนั้นซาร์สระบาดนานเกือบ 5-6 เดือน แต่ผมไม่เชื่อว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะระบาดต่อเนื่องได้นานขนาดนั้น นั่นเพราะหลังการระบาดระลอก 3 เริ่มต้นขึ้น รัฐบาลจีนได้ใช้มาตรการที่เข้มข้น โดยเฉพาะการตรวจหาและกักตัวผู้ต้องสงสัยแต่เนิ่นๆ ซึ่งหลังดำเนินมาตรการทั้งสองอย่างแล้ว เรามีความเชื่อมั่นพอว่า จะสามารถป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา ไม่ให้เพิ่มถึงจุดสูงสุดใหม่อีก” จงกล่าวเสริม
ขณะที่สถานการณ์ตอนนี้ ยอดผู้ติดเชื้อของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนเพิ่มมากเกือบถึง 6,000 คน ซึ่งมากกว่ากรณีการระบาดของโรคซาร์สในจีนที่มีผู้ติดเชื้อ 5,327 คน
ด้าน เกาฟู่ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด (CDC) ของจีน ให้สัมภาษณ์ CCTV แสดงความหวังว่า จุดเปลี่ยนสำคัญในการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะมาถึงภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และสถานการณ์จะดีขึ้น หากมาตรการควบคุมและป้องกันการระบาด ณ ปัจจุบันยังคงอยู่ โดยเขาเชื่อว่า มาตรการในตอนนี้ได้ผลดี และทำให้ยอดผู้ติดเชื้อค่อยๆ ลดลง
“หากเรายังคงยึดมาตรการ ณ ปัจจุบัน เราอาจได้เห็นจุดเปลี่ยนในอนาคตอันใกล้ ทุกคนคาดการณ์ว่า สถานการณ์จะพัฒนาดีขึ้นภายในช่วงเทศกาลโคมไฟ (8 กุมภาพันธ์) ผมมองโลกในแง่ดีและเชื่อว่า สถานการณ์จะพัฒนาดีขึ้นเร็วกว่านี้ แต่ทุกคนต้องยึดมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเข้มงวด” เกากล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน กาเบรียล เหลียง ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข และคณบดีโรงเรียนการแพทย์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ให้ความเห็นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 มกราคม) คาดการณ์ว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะเพิ่มถึงจุดสูงสุดในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมใน 5 เมืองใหญ่ของจีน ได้แก่ กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ฉงชิ่ง เซินเจิ้น และกว่างโจว ก่อนที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลงในช่วงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม
นอกจากนี้เหลียงระบุว่า เขาและทีมผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า อาจมีผู้ติดเชื้อเฉพาะในอู่ฮั่นสูงถึง 44,000 คน และคาดว่า มีราว 25,000 คน ที่เริ่มแสดงอาการในช่วงนี้
ขณะเดียวกัน เขาเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงเร่งดำเนินมาตรการที่เข้มงวดและเป็นรูปธรรมในการจำกัดการเคลื่อนย้ายของประชาชนที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเมื่อวานนี้ (28 มกราคม) ทางรัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศว่า จะระงับการออกวีซ่าข้ามแดนแก่ประชาชนจากจีนแผ่นดินใหญ่ เริ่มต้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งระงับการเดินทางข้ามแดนระหว่างฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยรถบัสหรือรถไฟความเร็วสูง รวมถึงลดจำนวนเที่ยวบินตรงจากจีนแผ่นดินใหญ่ลงครึ่งหนึ่ง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
