วันนี้ (30 พฤศจิกายน) ครบ 1 สัปดาห์ สำหรับการสืบสวนสอบสวนหาความเกี่ยวข้องของสถานบันเทิง 4 แห่ง ที่ต้องสงสัยว่ามี ‘กลุ่มนักธุรกิจจีน’ เป็นผู้ลงทุนและให้คนไทยรับหน้าที่เป็นนอมินี โดยแต่ละสถานบันเทิงต่างมีประเด็นการกระทำผิดต่อกฎหมายที่ชัดเจนทั้งเรื่องยาเสพติด เงินทุนหมุนเวียนผิดปกติ จนนำไปสู่การตรวจยึด ขยายผล และจับกุม กวาดล้าง ‘5 กลุ่มทุนจีนสีเทา’
สถานบันเทิง 4 แห่งประกอบด้วย
‘จินหลิง’ ถูกบุกตรวจสอบเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหายึดของกลางเป็นยาเสพติดซึ่งมีไว้จำหน่ายให้กับลูกค้าที่มาเที่ยวร้าน ตำรวจพบหลักฐานน่าเชื่อว่า ชัยณัฐร์กรณ์ ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว อยู่ในผับแต่หลบหนีออกไปได้
‘ท็อปวัน’ พบการซุกซ่อนอำพรางหลักฐานเกี่ยวกับการเสียชีวิตหญิงชาวจีน ใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินี เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
‘เบบี้เฟซ’ ถูกเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พบสารเสพติดในนักท่องเที่ยวภายในร้าน 2 คน ใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินี มีหน้าที่เพียงลงลายมือชื่อในเอกสารต่างๆ และได้รับเงิน
‘คลับวัน พัทยา’ มีการกระทำผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่าจากการรวบรวมข้อมูลทั้ง 4 คดี พบว่า มีพฤติการณ์ใกล้เคียงกันทั้งหมด คือเป็นสถานบันเทิงที่มีกลุ่มทุนจีนเป็นเจ้าของ โดยใช้คนไทยเป็นนอมินีบังหน้า และยังมีความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดประเภทอื่นๆ เช่น ยาเสพติด บ่อนการพนัน หรือคอลเซ็นเตอร์ โดยพบความเชื่อมโยงด้วยว่าทั้ง 4 กลุ่มรู้จักกัน
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร