สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่า กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่าการขยายภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ บิดเบือนการค้าระหว่างประเทศ และขัดขวางการพัฒนาพลังงานสะอาด รวมถึงบั่นทอนความพยายามในการลดการปล่อยมลพิษ
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศขยายเวลาการเก็บภาษีนำเข้าอุปกรณ์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นนโยบายที่มีขึ้นในยุคของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี ที่กินระยะเวลามาแล้ว 4 ปี แม้ว่าก่อนหน้านี้ไบเดนได้ผ่อนปรนเงื่อนไขในการยกเว้นแผงโซลาร์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 2 ด้านก็ตาม
อนึ่ง ในยุคที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าอุปกรณ์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในปี 2018 โดยใช้อำนาจตามมาตรา 201 ของกฎหมายการค้าปี 1974 โดยเริ่มต้นจัดเก็บภาษีที่ 30% และลดลงเหลือ 15%
“รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนกรานที่จะขยายมาตรา 201 แม้จะมีการคัดค้านอย่างรุนแรงจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยให้เกิดการพัฒนาเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังบิดเบือนการดำเนินการด้านการค้าระหว่างประเทศตามปกติอีกด้วย” กระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวในแถลงการณ์
นอกจากนี้จีนแสดงความหวังว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าเสรีในผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาด และหวังให้สหรัฐฯ มีส่วนสนับสนุนในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำ
ด้วยแรงผลักดันจากนโยบายผลักดันด้านพลังงานสะอาดจากทั่วโลกและความต้องการพลังงานสะอาดในประเทศที่เพิ่มขึ้น ประเทศจีนจึงให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศมากขึ้น โดยกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของจีนเพิ่มขึ้น 54.9 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้กำลังการผลิตในปีที่แล้วทั้งสิ้นอยู่ที่ 306.6 กิกะวัตต์ โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิตลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวมเป็น 1,200 กิกะวัตต์ ภายในสิ้นทศวรรษนี้ (หรือภายในปี 2030) จาก 635 กิกะวัตต์ เมื่อปลายปีที่แล้ว
ทางด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ไชน่า เอ็นเนอร์จี อินเวสต์เมนต์ คอร์เปอเรชัน (China Energy) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานชั้นนำของจีน ยังคงครองอันดับหนึ่งด้านกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานลมทั่วโลก โดยกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานลมของบริษัทสูงแตะ 50 กิกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2021
ขณะกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ในปี 2021 เพิ่มขึ้น 4.1 เท่าจากปี 2020 อยู่ที่ 8.6 กิกะวัตต์
ทั้งนี้ ไชน่า เอ็นเนอร์จีฯ เริ่มก่อสร้างโครงการพลังงานใหม่พร้อมกำลังการผลิต 19.68 กิกะวัตต์ ในปี 2021 โดยเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานใหม่ 10.89 กิกะวัตต์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/business/energy/china-says-us-tariff-extension-solar-products-hurts-new-energy-trade-2022-02-05/
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-02-05/china-criticizes-u-s-for-extending-tariffs-on-imported-solar?srnd=premium-asia&sref=CVqPBMVg
- https://english.news.cn/20220204/fb0743cf535d48928f234fcebe6a5e40/c.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP