เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักเมื่อ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ได้กล่าวถึงเป้าหมายทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์การลงทุนหลายรายได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิดจนนำไปสู่การล็อกดาวน์ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐยังคงไม่ได้มีออกมาให้เห็นมากนัก
ล่าสุด สีจิ้นผิง กล่าวว่า “เราจะยกระดับมาตรการเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาค และนำเครื่องมือที่ทรงพลังมาช่วยผลักดันเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ รวมทั้งการพยายามลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด”
อย่างไรก็ตาม ผู้นำจีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่ามาตรการที่จะนำมาใช้หลังจากนี้คืออะไร ซึ่งสำนักข่าว CNBC มองว่าเครื่องมือดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประสิทธิผลดียิ่งขึ้น
สำหรับเป้าหมายทางเศรษฐกิจของหนึ่งในประเทศมหาอำนาจในปีนี้ จีนวางเป้าหมายควบคุมอัตราการว่างงานต้องไม่เกิน 5.5% และเพิ่มอัตราเงินเฟ้อให้ไปสู่ระดับ 3% ส่วนอัตราการเติบโตของ GDP ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 5.5% ขณะที่ตัวเลข GDP ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ขณะนี้อยู่ที่เพียง 3.4% โดยเฉลี่ย
Maggie Wei นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า แม้ว่าการฟื้นตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจน่าจะเร่งตัวขึ้นในเดือนมิถุนายน จากการผ่อนคลายด้านนโยบายของรัฐบาลจีน แต่เป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ 5.5% ยังเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากในปีนี้
ขณะที่การประชุมคณะมนตรีรัฐกิจของจีนล่าสุด มีรายงานออกมาว่า จีนมีแผนที่จะออกมาตรการสนับสนุนกลุ่มยานยนต์เพื่อช่วยผลักดันเศรษฐกิจโดยรวม โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายของอุตสาหกรรมได้ราว 2.99 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ทั้งหมด โดยตัวเลขดังกล่าวคิดเป็น 0.5% ของยอดขายของกลุ่มยานยนต์ในปี 2021
อ้างอิง: