ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ออกมาประกาศมาตรการหลายประการโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคสำหรับสินค้าในครัวเรือนและรถยนต์ และการส่งเสริมบริษัทเอกชนด้วยรายละเอียดที่เจาะจงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้บรรดานักลงทุนส่วนหนึ่งก็ยังไม่มั่นใจในคำมั่นสัญญาดังกล่าว และกำลังมองหาข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงรอดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าน่าจะมีขึ้นในการประชุมที่จะเกิดขึ้นของโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์
สำหรับมาตกรการสนับสนุนเศรษฐกิจล่าสุดของรัฐบาลกรุงปักกิ่ง ประกอบด้วยมาตรการกระตุ้นการบริโภครถยนต์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านการวางแผนเศรษฐกิจ ได้เผยแพร่แผน 10 ขั้นตอนเพื่อเพิ่มการซื้อรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานใหม่ รวมถึงต้นทุนที่ลดลงสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและการขยายเวลาลดหย่อนภาษี โดยในเดือนมิถุนายนกระทรวงพาณิชย์ยังได้เปิดตัวแคมเปญระยะเวลา 6 เดือน เพื่อส่งเสริมการซื้อรถยนต์และผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ชนบท
ขณะที่ก่อนหน้านี้ในวันที่ 19 กรกฎาคม ทางพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญาร่วมกันเพื่อปรับปรุงเงื่อนไขสำหรับธุรกิจเอกชน โดยสรุปมาตรการ 31 รายการ ที่รวมถึงคำปฏิญาณที่จะปฏิบัติต่อบริษัทเอกชนเช่นเดียวกับรัฐวิสาหกิจ พร้อมปรึกษาหารือกับผู้ประกอบการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการร่างนโยบายและลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดสำหรับบริษัทต่างๆ ขณะที่ในวันที่ 20 กรกฎาคม ทางธนาคารกลางจีนได้ปรับกฎบางอย่างเพื่อให้บริษัทสามารถกู้ยืมเงินจากต่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการเปิดประตูให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามากขึ้น นอกจากนี้ทางธนาคารกลางจีนยังเพิ่มการตั้งอัตราคงที่ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนรายวันให้แข็งแกร่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลจีนยังไม่ลืมกระตุ้นการบริโภคภายในครัวเรือน โดยหน่วยงานรัฐบาล 13 แห่งได้สรุปแผนการที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายของครัวเรือนในทุกสิ่งตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้รับการสนับสนุนให้ช่วยผู้อยู่อาศัยในการปรับปรุงบ้านของพวกเขา และผู้คนควรเข้าถึงสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าในครัวเรือนได้ดีขึ้น เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม
ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนยังเดินหน้ากับเทคโนโลยี โดยได้ออกแนวทางปฏิบัติ 24 ข้อสำหรับบริการรูปแบบ ChatGPT ซึ่งคลายข้อจำกัดบางอย่างที่เสนอเมื่อหลายเดือนก่อน และทางหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินยังได้สรุปการปราบปรามภาคส่วนนี้ด้วยกฎระเบียบเกือบ 2 ปีด้วยค่าปรับมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สำหรับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี Ant Group Co. และ Tencent Holdings Ltd.
ในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เมื่อช่วงวันที่ 10 กรกฎาคม ทางหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินขยายการผ่อนปรนเงินกู้สำหรับนักพัฒนา เพื่อให้แน่ใจว่ามีการส่งมอบบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ขณะที่ทางธนาคารกลางจีนยังบอกใบ้ด้วยว่า ผู้ให้กู้จะสามารถเจรจาสัญญาจำนองใหม่หรือขยายสินเชื่อใหม่ เพื่อลดต้นทุนทางการเงินสำหรับสินเชื่อบ้าน ส่วนหน่วยงานกำกับดูแลกำลังพิจารณาผ่อนปรนข้อจำกัดการซื้อบ้านในเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งอาจขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางอุปสงค์ในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มานานหลายปี
สำหรับในส่วนของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลักเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งค่อนข้างสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนเล็กน้อย โดยธนาคารกลางจีนย้ำว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน และยังมีขึ้นก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงถึงการตกต่ำของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนภาคเอกชนที่ลดลงอย่างน่าเป็นห่วง และการว่างงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ของคนหนุ่มสาว ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนจำเป็นต้องได้รับมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ
อ้างอิง:
